Acer Iconia w4 820 Z3742g03aii Tablet Windows 8.1 With Bing ราคาสุดคุ้ม 4990 บาท (แต่หนักไปหน่อยนะ เมื่อยมืออ่ะ)

บทนำ

ปี 2558 นี้เป็นปีที่ผมมีความคิดแปลกๆว่า Microsoft ยักษ์หลับด้านอุปกรณ์ Device พกพา มันต้องกลับมาแน่ๆ เพราะพี่แกเริ่มหันลงมาสู้กับ Android และ iOS แบบจริงจังมาก โดยการปล่อย Windows 8.1 with Bing ออกมาโดยใครอยากเอาไปลงอุปกรณ์ตัวเองไม่คิดค่าไลเซน (คือผมไม่มั่นใจนะว่าไม่คิดเลย หรือคิดในราคาถูกมากกกก จนแทบเอาไปใช้กันฟรีๆ ซึ่งมันผิดกับนโยบายที่ผ่านมาของ MS จอมเคี่ยวมากๆๆๆๆๆ แต่ก็นะ Android เล่นใช้กันฟรี ขืน MS ยังทำตัวแบบนี้ 3 ชาติก็คงไม่ได้เกิด ) ซึ่งไอ้ MS Windows 8.1 With Bing นี้ เท่าที่ลองใช้ มันเหมือนกะ MS Windows 8.1 เครื่อง Desktop Computer ที่ผมใช้อย่างกับแกะ ทางด้านการใช้งานทั่วไป ผมว่ามันไม่น่าแตกต่างกันเลยครับ แต่ที่แน่ๆ มันทำให้ขนาดความจุ Windows OS ลดลง เหลือ แค่ราวๆ 16 GB ทำให้ เมมใน Tablet ขนาด 32 GB จะเหลือให้เราใส่ไฟล์ต่างๆได้ราวๆ 16 GB ( ซึ่งผมมั่นใจว่ายังไงก็ไม่พอหรอก 555 ) แต่มันทำให้คนขาย Device จะได้โฆษณาได้ว่า ความจุเหลือ 16 GB นะจ๊ะ (พอดีมี Acer P131 ซึ่งเป็น Ultrabook ผสม Tablet อันนั้น OS แบบปรกติ ล่อขนาด Windows ไปซะเกือบ 30 GB เมม 64GB เหลือใช้นิดเดียว แถมเพิ่มเมมไม่ได้อีก )

ข้อมูลสำหรับ Windows 8.1 with Bing ทางเวป Droidsans เขียนไว้ดีมากครับ
http://droidsans.com/what-is-windows-8.1-with-bing ไปอ่านกันดูครับ

มั่นใจว่าปีนี้ มันต้องมีอุปกรณ์จากจีน พวก Tablet Windows 8.1 หรือ พวก กล่องๆ หรือพวก Stick ๆ ทั้งหลายที่มี HDMI out แล้วข้างในมันยัด Windows 8.1 Bing เอาไว้มาแน่นอน

เอามาต่อจอใช้งานได้ทันที ไม่ต้องมี Desktop Computer ให้เกะกะอีกแล้ว บูตเร็ว ไม่ต้องรอ และแน่นอน ญาติผมคนนึงที่รับซ่อมพวก PC นี่โอดครวญมา 2-3 ปีแล้วว่า เทรนคนมันเปลี่ยน เมื่อก่อนกลับบ้านเปิดคอมยันเช้า เดี๋ยวนี้เล่นทุกอย่างใน Tablet และถ้ามันมี Tablet MS Windows มาหละก็ ผมว่ามีอวสาน PC น่าจะเหลือแค่คนที่เอาไว้เล่นเกมส์อย่างเดียวละ จบข่าว PC ตั้งโต๊ะแน่นอน ( จริงๆ Tablet Windows มันมีมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เกิดเพราะตัว MS เองแหละครับดันไปคิดค่าไลเซนส์ซะแพง ผู้ผลิตเลยไป Android กันหมด หันกลับมาอีกที ไม่มีที่ยืนให้ตัวเองแล้ว และ Surface Pro ของ MS เองล่อไป 2-30000 แต่ Tablet Android ราคาแค่ 2000 - 15000 ราวๆนี้เอง )

ก่อนซื้อ Acer Iconia W4 (820) รุ่นใหม่ ตัด 3G ทิ้ง มีแต่ Wifi ผมมีตัวเลือกอะไรบ้างและทำไม มี Note 8 และ iPad Mini แล้ว ยังจะต้องโดนไอ้ Tablet Windows อีก

เกริ่นก่อนเลย
คือผมมีปัญหาหลักๆที่ทำให้ผมอยากโดน Windows Tablet มากๆๆๆ เพราะ เรื่อง MS Office เรื่องเดียวเลยครับ นอกนั้นแทบไม่มีค่าอะไรเลยเพราะ App ต่างๆในฝั่งด้าน Modern UI (หรือชื่อเก่าของมันคือ Metro) มันมีน้อยมาก ถึงขั้นที่ผมคิดว่าไม่น่าตาม Android และ iOS ทันแน่นอน เพราะทางนั้น App ให้ใช้ครบครันและเยอะจริงๆ แต่สิ่งเดียวที่ทาง Android และ iOS ยังไม่โดนใจผมคือ MS Office ครับ ให้ตายยังไงลองเสียเงินมาหลาย App ทั้งฟรี ทั้งไม่ฟรี มันมีแค่เกือบโดนใจ มันยังไม่ครอบคลุมการใช้งานที่ผมใช้ (ทั้งๆที่ก็แค่เอาไว้เปิดดูราคาสินค้าเท่านั้นเอง) เพราะพอเรา Save ในคอม เอาไปเปิดใน Tablet มันขยับ แปลกๆ บางทีมันตัวอักษรเยื้อง ไม่รองรับ สระ วรรณยุกต์ ไทย และ ปัญหาอื่นๆอีกมากมาย โหลดช้าบ้างไรบ้าง อึดอัดมาก เลยมีความคิดว่า ถ้ามันเป็นงี้ กระผม หรือ กู ซื้อ Tablet Windows แม่งเลย เอามาลง Office 365 กุว่ามันไม่เพี้ยนแน่ๆๆๆๆๆๆๆ (และแล้วก็หาข้ออ้างทางใจ หาทางไปถอยให้ได้ จนภรรยาเขม่นว่า คุณพี่ค่ะ มึงมีทั้ง Android และ iPad คุณมึงยังจะไปเสียเงินซื้อ Windows ทำป้าอะไรอีกค่ะ Notebook ก็มีใช้ คุณมึงยังจะเอา Tablet Windows อีก 555)

แหม่ ก็การพกพาแบบ Tablet มันสะดวกกว่ามว๊าก นี่น่า และผมมั่นใจว่าทุกท่านที่ผ่านการใช้ Tablet มาต้องชอบขนาด 8 นิ้วแน่นอน เพราะ มันไม่เล็กไม่ใหญ่ ถือเอายังน้ำหนักไม่มาก ถ้าพวก 7 นิ้วมันก็จอเล็กไปนิด ถ้าพวก 10 นิ้ว ให้พกจริงๆ โอะ หนักโคด อยู่ได้ไม่นานมีเมื่อยมือ ต่อให้มันเป็น iPad Air เลย มันก็ยังเกะกะ ส่วนตัวคิดว่า 8 นิ้ว โครตลงตัว

ตัวเลือกในตลาด วันที่ 1-26 มกราคม 2558 มีไม่กี่ตัวครับ

1. CSC Wisebook AU802T รุ่น 8 นิ้ว

http://pantip.com/topic/32946762 รีวิวที่เพื่อนๆทำไว้ ขอแปะหน่อยนะครับ
ไปดูเป็นตัวแรกเลยเพราะโฆษณาเยอะมากกก
อุต่ะ ชอบมาก บางๆๆๆๆ และ เบา 310 กรัมเอง ทำได้ไงไม่รู้ ขนาดกำลังดีมาก มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ อย่างดุเดือด ออกมาทีเดียว 3 รุ่น 8 นิ้ว 8.9 นิ้ว และ 10 นิ้ว

สเปค

OS Windows 8.1 + Office 365 Personal
CPU Intel Atom Processor Z3735G 1.33 GHz (2M Cache, up to 1.83 GHz)
Storage RAM 1GB ROM 16GB
Extended Storage MAX 64GB
Display 8” LCD capacitive touchscreen Multitouch 1280x800 - HD IPS - OGS - 5 touch point
Networking Wireless 802.11b/g/n
Connection Bluetooth 4.0
Sensor G/sensor-Light sensor
GPS
3G Data download speed up to 21Mb/s Data upload speed up to 5.76Mb/s
Operating bands WCDMA: 900/2100MHz GSM: 900/2100MHz
USIM card slot 1 Micro SIM card
Audio Output 3.5 mm headphone
2 Camera – 2.0Mpixel – 5.0Mpixel
Built-in microphone
Built-in speaker
1 micro USB 2.0 Hi-speed –Host USB Data Transmission USB 2.0
SIM Slot Small card (Micro SIM)
Size&Weight 213.9x124.7x7.9mm. & 310.5g
Power Rechargeable Li-polymer battery (4400mAh) Power Adapter 5V 2A micro USB

โดยรวม สเปคดี มี 3G ทุกรุ่นแต่เดี๋ยวก่อน แรม 1 กิ๊ก รองรับ 3G แค่ AIS 900 และ ทุกค่ายที่มีความถี่ 2100MHz และ ราคา 6990 บาท อืม ยังไม่โดนตรง แรมนี่แหละ ใช้ไปแรกๆ ลื่นๆ แต่ใช้ไปนานๆๆ มีแรมหมดชัวร์ เพราะมันฝังหัวแล้วว่า ไอ้เจ้า Windows นี่กินแรมดุมาแต่ก่อน เอาเป็นว่าขอผ่านก่อน

( แต่จริงๆมีอีกเหลุผล คือ CSC แต่ก่อนเค้าเป็นแค่ Distributor คือจัดจำหน่ายอย่างเดียวเหมือนพวก Synnex Ingram ผมเคยโดนมือถือ Sharp ที่นำเข้ามาขายโดย Ingram มา 1 ครั้ง จอแตกเอาไปซ่อม ไม่มีอะไหล่ ต้องให้เมืองนอกตีราคา และโทรมาถามก่อนว่าจะซ่อมไหม แล้วค่อยส่งข้ามประเทศไปซ่อมต่างแดนและค่อยขึ้นเรือกลับมา แค่คิดก็เกิน เดือนแล้ว ผมยังไม่รู้ว่า เบื้องหลังการขายของ CSC Wisebook จะเป็นอย่างไร จะต้องไปเที่ยวจีนไหมถึงจะได้ซ่อม เพราะที่ได้ยินมาเหมือนจะเอาโรงงานจีน แปะตรา CSC และส่งมาขายที่ไทย (ถ้าไม่ใช่ขออภัยมา ณ ที่นี้) เลยยังไม่มั่นใจเรื่องการประกันและการส่งซ่อมเท่าไหร่ ( อุปกรณ์ IT ผมว่าขายอะง่าย แต่ตอนซ่อมนี่ดิ โอดครวญกันทุก Brand ) ดังนั้นขอผ่านก่อนนะคับ

2. Lenovo MIIX3 รุ่น 830 เจ้าครอง Notebook ที่มาแรงแซง Acer ไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรีวิวตัวนี้มีน้อยมาก ไม่รู้ทำไม Lenovo ไม่ค่อยปล่อยการโฆษณารุ่นนี้เลย พวก Blogger ที่รีวิวก็เป็นแค่ข่าวประชาสัมพันธ์ ธรรมดา ไม่ได้มีการเอาตัวจริงไปให้ทดลองเล่น ไม่มีรีวิวใครเขียนซักนิด มี Youtube แกะกล่องอยู่อันนึงโดยคนไทย

สเปค

Intel Atom Z3735F Quad-core Processor 1.33GHz up to 1.86GHz
Windows 8.1 update Free Microsoft office 365
2GB LP-DDR3
ROM 32GB
7.85” SD IPS (768 x 1024)
Micro USB 2.0, Audio Combo Jack, Micro SD
Camera F/R 2.0/ 2.0MP
Battery usage time up to 5Hrs.
Wifi IEEE802.11B/G/N
Blue tooth 4.0
Weight 374g.
1-year Regional Carry-in

โดยรวมมันเหมือนๆกันครับ แต่ที่ได้มาคือ แรม 2 กิ๊ก แต่ไม่มี 3G และจอคาดว่าน่าจะความละเอียดน้อยกว่า CSC Wisebook AU802T นิดหน่อย แต่ Body นี่สิ แม่เจ้าแทบก๊อป iPad Mini มาเลยมั้ง ราคาก็ถือว่าโหด 7990 บาท แต่ผมเห็นแว๊ปๆใน Lazada 6900 บาท และถ้าคุณซื้อใน Lazada แบบโดนวันแล้วหละก็ มันลดอีก 10% นะครับ

เอาละสิผมนี่ถึงขั้นไปเดินตามหาของตามห้าง IT ความสนใจนี่พุ่งกระฉูด อยากจับตัวเป็นๆ (ซึ่งหลังๆ เทรนมันต้องมาครับ คือ วางให้ลองเล่นกันไปเลย ถึงขนาดเคยเจอเด็กๆมายืนเล่นเกมใน iPad หลายนาที) แต่สิ่งที่ได้พบคือ ไม่มีเลยครับให้ลองเล่น มีขายครับที่ร้าน JIB แต่ไม่ให้ลองเล่นครับ อ้าวเลย (ร้อนขึ้นมาในทันที) คือ พี่ครับ ผมงงครับ พี่อยากขายของ IT โดยเฉพาะไอ้ Tablet นี่ ยี่ห้อของพี่เองพี่วางทุกรุ่น แต่ทำไมครับพี่ MIIX 3 พี่ดันดองเค็มมันไว้ในกล่อง น้องร้าน JIB ก็บอกว่า มันแกะไม่ได้จริงๆค่ะพี่ ตัว Demo ทาง บริษัทเค้าไม่ส่งมา ไม่รู้จะส่งมาไหม อยากโดนนะ แต่ไม่ได้ลองเล่น และใจยังมีข้อส่งสัยเรื่องขนาดจอ 7.85 นิ้ว ที่ความละเอียด 768x1024 อยู่ กลัวภาพมันแตกๆ อะคับ อยากลองตัวเป็นๆ แต่ไม่มีให้ลอง จบข่าว ตกม้าตายกันเลย

3. Acer Iconia Tab8 W1-810
แหม่เหมาะเจาะ วันที่เขียน Blog เวป Droidsans ทำรีวิวพอดี
http://droidsans.com/review-acer-iconia-tab8-w1-810 ไปอ่านกันนะครับ

Microsoft Windows 8.1 with Bing (32-bit)
Office 365 Personal ใช้งานได้ 1 ปี
Intel Z3735G Quad-core 1.33GHz
หน้าจอ IPS LCD ขนาด 8" ความละเอียด HD (1280x800)
RAM 1GB DDR3
ROM 32GB + microSD 64GB
WiFi 802.11 b/g/n
Bluetooth 4.0
แบตเตอรี่ 4,600 mAh

ผมไป IT city เซ็นทรัลพระราม 3 และลองไปถามดูว่ามีให้ลองเล่นไหม ทางคนขายก็รีบหยิบมาให้ลองเล่นในทันที โดยรวมดีมากครับ ลื่นๆ และน้ำหนักเบามาก 300 กรัม แต่อีกแล้ว แรมไมไม่รู้งกกันจริง ใส่มา 1GB อีกแล้ว งานประกอบ ดีมาก สวยงาม ราคา 6900 บาท

แต่เผอิญคนขายบอกว่า พี่ครับ มันมีตัวใหม่เข้ามา เป็นตัว Acer Iconia W4 ผมก็แย้งไปว่า W4 นี่ออกมาจะ 1 ปีแล้วมั้งครับ มันไม่ใหม่แล้วนี่ครับ ( ในใจคิด 555 อยากเคลียส์ Stock ของเก่าอะดิ และตอนเปิดตัว W4 นี่ ราคาพุ่งแรงแซงทางโค้ง 16900 บาท ต่อให้มีตัวใหม่ มันก็น่าจะถูกลงไม่มาก กูรู อย่างผม (กูรู้น่า) ไม่น่าโดนมันหลอก ) เลยถามไปว่า แล้วตอนนี้ราคาเท่าไหร่แล้วครับ คนขายรีบพาเดินไปดูที่โต๊ะทดลองสินค้าด้านหลัง และรีบหยิบกล่องใหม่มาให้ดู และแกะพลาสติกเลย ผมนี่ถึงขั้นอึ้ง เห้ย แกะตัวใหม่เลยรึ คนขายก็บอกว่า เค้าส่งมาให้ 10 ตัว เพิ่งมาเมื่อกี้ และตัว Demo ก็แกะเอาจาก 10 ตัวนี้แหละ อื้อหือ โดนใจ (นึกถึง JIB Lenovo MiiX 3 830 เป็นไงหล่ะ Acer มาแนวนี้เลยนะจ๊ะ แกะสดๆ ) หลังจากแกะโดยที่เครื่องยังอยู่ในห่อพลาสติก ผมก็ถามราคาตัวแทน Acer อีกที เค้าบอกว่า 4990 คับพี่ และซื้อตอนนี้แถมเมม Micro SD 32 GB ด้วยนะคับพี่ ใจนี่ คุณพี่คับ ช่วยเอาบัตรผมไปรูดเลยครับ 5555 แต่เดี๋ยวก่อน ลองถือดูโดยยังไม่แกะพลาสติกเล่น ก็พบว่า . . . .

สเปคครับ หายากมากไม่รู้ทำไม Acer ก็ขายแบบเงียบๆ ให้ IT City ขายเจ้าเดียวด้วย

Acer Iconia w4-820-z3742g03aii

Intel Z3742G Quad-core 1.3 - 1.8G Hz
มี Office 365 Personal ใช้งานได้ 1 ปี โดยลงใน PC หรือ MAC ได้ 1 เครื่อง และ Tablet W4 อีก 1 เครื่อง
(โดยในกล่องใส่ใบ Activate มาให้ คือเรื่องนี้มีต่อเดี๋ยวอธิบายทีหลัง)
หน้าจอ IPS LCD ขนาด 8" ความละเอียด HD (1280x800)
RAM 2 GB
ROM 32 GB
มีช่องใส่ Micro SD สเปครองรับที่ 32 GB แต่ก็อยากลอง 64 GB 128 GB ดูนะว่าใส่ได้ไหม
WiFi 802.11 b/g/n
Bluetooth 4.0
มี HDMI out
แบตเตอรี่ (หาก่อนนะ เดี๋ยวไปดูข้างกล่อง)
หนัก 410 กรัม

ต่อครับ
คือผมพบว่า น้ำหนักของมันไม่ใช่เล่นๆเลยครับ 410 กรัม แซงทุกเจ้า

ติดใจตรงน้ำหนักที่หนักเกินขนาดไปนะ และ ในใจยังอยากลองดูตัวเป็นๆของ Lenovo MiiX 3 อยู่ เลยบอกน้องคนขาย ( หรือพี่คนขายดีนะ เพราะหน้าตานี่ Advance ) ไปว่า อืมๆๆๆ ยังไม่ต้องแกะอะคับ เดี๋ยวขอไปลอง MiiX 3 ก่อนนะจ้า และรีบเดินออกมาโดยหันกลับไปดูป้ายโฆษณาที่วางข้างหน้าว่า 50 ท่านแรกที่ซื้อ W4 แถม เมม 32 GB นะครับ และเดินจากออกมา

กลับไปบ้านก็ลองคิดดูว่า เกินความจำเป็นไปไหมฟร่ะ ไอ้ Windows 8.1 Bing Tablet เนี่ย แต่อีกใจก็คิด อืมปัญหาระดับชาติเลยนะเว้ย เปิด MS Office แล้วมันโหลดช้าและไม่ตรงเนี่ย เดี๋ยวของลองไปเล่นๆดูอีกนิด คริๆ 

แต่ก่อนจะได้ไอ้ W4 มาครอบครองผมมีเรื่องฮาๆมาเล่าสู่กับอ่าน ขำๆแบบที่น่าจะผมคนเดียวมั้งที่จะเจอแบบนี้

เผอิญวันหยุดเสาร์ ไปซีคอน ศรีนคริน คราวนี้ได้เล่น W4 ตัวเป็นๆ แม่เจ้า มันแอบดีหว่ะ เอาหละสิ จัดเลยดีไหม แต่ก็ยังไม่ได้ลอง Lenovo MiiX 3 ซักที เดินจนทั่วซีคอน ศรีนคริน ก็ไม่มีตัวเป็นๆ มีแต่ในกล่อง ก็เลยยังฟันธงไม่ได้ว่าจะซื้อตัวไหน ช่วงเย็นจำเป็นต้องไปเซ็นทรัลบางนา ไปลองเล่น W4 อีกแล้ว และ ไอ้ Lenovo MiiX 3 ก็ยังไม่ได้ลองตัวเป็นๆอีก เลยตัดใจ ไม่รอมันแล้วโว้ยยยยย จัดเลย ฟระ Acer W4 เดินไป IT City บอกตัวแทน Acer จัดมา 1 ดอกเลยครับ แฟนพี่นวดหน้าอยู่ Bronze ยังไม่รู้ตัว รีบเอาบัตรพี่ไปจัดการเลย (ตัวแทนบอกว่า 50 ตัวแรกที่แถมเมม 32 GB หมดโปรไปแล้วนะค้าบ ตอนนี้แถมฟิล์ม แทนนะค้าบ เศร้าเลย)

คนขายก็จัดการเบิกของเอามาแกะ เปิดทดสอบ ดูรอบๆตัวเครื่อง OK ผ่าน เปิดเครื่อง บูทเข้า Windows 8.1 รอบแรกนานหน่อย เพราะต้องตั้งค่าต่างๆ กดเข้า Modern UI แม่เจ้า

เจอ Death Pixel เงิบเลยครับ มันเป็นจุดดำๆ กลางจอ เลยบอกน้องไปว่า ขอเปลี่ยนเครื่องใหม่ครับ เปลี่ยนได้นี่เนอะ น้องคนขายทำหน้าเจื่อน และบอกด้วยเสียงค่อยๆว่า มีตัวเดียวคับพี่

ผมนี่อยากร้องให้
สุดท้าย Cancel บัตรที่รูดไปออก น้องแคชเชียนี่สงสัยป่วยอยู่ ยิ่งทำหน้าตูดกันเลยทีเดียว
กลับบ้านด้วยความเศร้า คิดในใจ ฮาดีหว่ะ สงสัยไม่มีดวงซื้อ

วันอาทิตย์ไป เมกาบางนา พาลูกไปเล่นสไลเดอร์ (555 จริงๆจะไปถอย W4)
ไอ้ Lenovo MiiX 3 ก็หาไม่ได้อีกและ และ สเต็บเดิม IT city ถามคนขายบอกมี 2 ตัวคับพี่ ถ้าตัวแรกเจอ Death Pixel พีแกะเครื่องใหม่เลย คิดในใจ 5555 วันนี้โดนแน่ มรึง ตอนจ่ายเงินยังคุยกะน้องแคชเชียว่า ไม่รู้เมื่อวาน แคชเชียที่เซ็นทรัลบางนาเป็นไงไม่รู้ เกือบกินหัวผมอยู่แล้ว น้องเค้าก็ฮากันไป
แต่หลังจากลองเครื่องฮาไม่ออกเลยครับ

แกะมา Death Pixel ทั้ง 2 เครื่อง นี่มันเชรี่ยอะไรฟระ

นี่กุคงไม่มีดวงโดนไอ้ W4 แล้วแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆ และบอกกับแฟนว่า ไม่ซื้อแม่มและ ไอ้ W4 เนี่ย สงสัยไม่มีดวงจริงๆ จบข่าว (แต่ ณ ตอนนั้น ผมได้แอบสั่งเคส W4 แบบตั้งได้ จาก Ebay มาเรียบร้อยแล้วในคืนวันเสาร์ ) กลับบ้านไปนั่งคิด แล้วไอ้เคสที่ตูสั่งมานี่ต้องหาทางขายอีก 555 เศร้า จอไอ้ W4 นี่แม่ม QC ห่วยแตกมาก ไม่เคยเจอเลย เปิดมาโดน Death Pixel ทั้ง 3 เครื่อง (เซ็นทรัลบางนา 1 เครื่อง เมกาบางนา 2 เครื่อง เหมา Death Pixel ทุกเครื่อง) นึกถึงตอนที่ไปซื้อ PSP รุ่น 2000 ที่ร้าน Nadz Project ผมล่อเปิดเครื่องสีขาวมันเกือบหมดตู้ เจอ Death Pixel ทุกเครื่อง กว่าจะได้เครื่องที่สมบูรณ์นี่ แทบหมดร้าน แต่นั่นผ่านมาเกือบจะ 6-7 ปีแล้วนะ เทคโนโลยีจอมันน่าจะก้าวไป ณ จุดที่ควรจะไม่มี Death Pixel ได้แล้วมั้งครับ

ผ่านไป 1 สัปดาห์ แทบจะลืมมันไปแล้วว่าจะซื้อ เผอิญได้ไปเซ็นทรัล พระราม 3 (ไม่ได้ตั้งใจไปซื้อไอ้ W4 นะ แต่ ซิมทรูที่เป็น Multi Sim ทำไว้ให้พ่อดูหุ้นยังใช้ไม่ได้เลยไปฉะกะทรูแปป )

ณ จุดเกิดเหตุที่ได้จับไอ้ W4 ครั้งแรก คนขายคนเดิมก็บอกว่ามี 6 ตัวคับพี่ พี่ลองหาเลยครับจนกว่าจะเจอเครื่องที่พี่โดนใจ แถม IT City คนขาย Acer สาขานี้ยังป๋าเหมือนเดิม แกะก่อน ลองก่อนค่อยจ่ายตัง

คนขายบอกว่าตั้งแต่ที่พี่มาดูคนแรก " ตอนนี้ผมขายไปกว่า 20 เครื่องแล้ว อืม และโดน Death Pixel 1 เครื่อง ผมว่า ไม่น่ามีปัญหานะครับ ลองเล่นกันให้เต็มที่เดี๋ยวผมมานะครับ"

แล้วคนขายก็หายไป ลองเล่นมันเลย 20 นาทีจนมั่นใจว่าสินค้าไม่มีปัญหา OK จัดไป จ่ายเงินและถามน้องว่า Keyboard มันหละ เห็นจัดโปร 690 บาท แต่ต้องมารับของวันหลัง (IT city เซ็นทรัล บางนา บอกมา) น้องเค้าบอกว่า Keyboard ก็มาแล้วครับพี่ เอาพร้อมกันเลยไหม เดี๋ยวผมให้น้องฝั่งเช็คเครื่องเกะมาให้ลอง ขณะนั้นก็แปะฟิล์ม กันไป สุดท้ายลองเครื่องเดียวจบ

ในใจได้แต่คิดว่า 555 ฮาชิบหาย คือดวงมันจะให้มาซื้อกับไอ้น้องคนแรกที่จุดประกาย Acer Iconia W4 คนนี้นี่เอง กุล่อเสียเวลาไปเป็นอาทิตย์ ไปตามหามันตั้งหลายห้าง สุดท้ายก็ตายรัง เซ็นทรัล พระราม 3

ยาวดีไหม อ่านไปขำๆนะ ผมพิมพ์มันๆ ก็เอาไว้อ่านเองตอนแก่ น่าจะมานั่งฮา จิบชาไปเลี้ยงหลานไป ฮาไป 555

ทิ้งท้าย เมียผมมีมาเหน็บ " อ้าว ไหนว่าจะไม่ซื้อแล้วไง ไหนบ่นว่า มันห่วย " 

ขอเตือนนะครับ ลองเล่นนานๆ และจบที่ร้าน IT city นะครับ ถามน้องก่อนว่ามีกี่เครื่อง มีปัญหาเปลี่ยนได้นะ อุปกรณ์ IT มีโอกาสทั้งนั้นครับที่จะ QC ไม่ดี จะได้เปลี่ยนตรงนั้นเลย มันประกัน 7 วัน เปลี่ยนตัวใหม่ ก็จริง แต่ลองนานๆแถอะครับ จะได้ไม่มานั่งเศร้าทีหลัง และผมได่ไปอ่านตามเวป มีคนเป็นแบบผมหลายคนนะครับ เปิดมาลองเครื่องเจอ Death Pixel

เข้ารีวิวซักที

1. กล่อง ช่วงหลังๆมานี่ไม่รู้ยังไง กล่อง Acer Tablet นี่สวนกระแสชาวบ้านชาวช่อง เค้าจะทำให้มันโมเดิน สวยงาม น่าใช้ สตีป จ๊อป แบบ ขาวๆ ดำๆ สวยๆ แต่ Acer ไม่ครับ พี่แกเล่นแบบกล่องเหมือนของเล่นเด็ก กล่องดูแล้ว เหมือนมันไม่น่าใช้อะครับ มันเหมือนของเล่นเด็กประถม แบบ Tablet ป.1 อะไรแบบนั้นเลย คน design กล่องนี่ไม่รู้คิดยังไง แต่ก็บอกสเปคโดยรวมไว้ได้ดีครับ

ด้านในเปิดมาเป็น 2 ชั้น
- ชั้นแรกวาง Tablet ใส่ห่อพลาสติก สวยงาม บอกรายละเอียดโดยรอบ Tablet ไว้ได้ดีมาก

- ชั้นที่ 2 เป็นสายชาร์จและหัวอแดปเตอร์ ที่ชาร์จ โดยแถมสาย OTG หรือ สาย On-The-Go แปลง หัว micro USB เป็น USB 2.0 แบบธรรมดาเพื่อต่ออุปกรณ์ภายนอก

*** ขอติเลยครับ หัวชาร์จ หรือ อะแดปเตอร์ สวยงามน่าใช้มากครับ แต่สาย Data หรือ สาย USB นี่เส้นโตมาก สวนกระแสอีกแล้ว แต่ละเจ้าพยายามให้มันบางลงๆ สวยงาม แต่ Acer นี่เล่นยังกะเส้นอุด้งไม่รู้ทำไมเส้นมันโตขนาดนี้

2. ตัวเครื่อง
ด้านหน้า - มีคำว่า Acer สวยงาม มีกล้อง 2 ล้านเมกาพิกเซล ให้เอาไว้ให้อุ่นใจนิดหน่อย จอนี่สีดำตัดกับสี Body ที่ออกเทาๆได้ดี โดยที่ด้านล่างของ Tablet ยังคงปุ่ม Home เป็นรูป Windows เหมือน iPad และ Tablet Samsung เอาไว้ ผมว่าปุ่มนี้ใช้งานสะดวกนะครับ

ด้านหลัง - เท่าที่ผมอ่านๆมา เค้าว่าฝาหลังมันทำจากอลูมิเนียมนะครับ แต่ทำไมผมจับๆมันดูเป็นเหมือน พลาสติกยังไงไม่รู้พ่นสีเทาๆ เป็นรอยนิ้วมือยากดีครับ มีกล้องหลังสเปคบอกว่า 5.0 Mpixel ด้านล่างบอกรายละเอียดรุ่น และ ผลิตจากจีนครับ และแน่นอน โลโก้ Intel Inside

3. ด้านซ้าย - โล่งเลยครับ ไม่มีไรเลย

4. ด้านขวา - เพียบ ไล่ตั้งแต่ชื่อรุ่น Iconia , ช่องใส่ Micro SD , HDMI out , ปุ่มปรับเสียงเบา ดัง และรูรับ Microphone ครับ

มีของแปลกๆมาอย่างนึงใช่ไหมครับ นั่นคือตัวให้ผมตัดสินใจวัดกับ Lenovo MiiX 3 นอกจากเรื่องราคา คือ HDMI out ครับ เพียงคุณมีสาย Micro HDMI to HDMI ธรรมดา ก็เสียบต่อไปออกจอ LED หรือ พวกฉายสไลด์ได้เลย เสียบปุ๊บ ติดปั๊บ ภาพขึ้นจอทันทีเลยนะครับ สะดวกมากสำหรับคนที่จะต้องใช้ present งาน และอื่นๆ ไม่ต้องเอา File ออกมาจาก Tablet ไปใส่ Notebook
เราต่อจอได้เลย หรือคิดว่า จอมันเล็กไป ทำงานลำบาก ต่อออกจอใหญ่ๆ ที่ทำงานเลยไหมครับ มีจอ Monitor ที่ต่อ Hdmi In ได้ เสียบปุ๊บ ทำงานได้เลย ผมว่าสะดวกมากและเทรนปีนี้มาแน่
แต่ก่อนประกอบ PC 1 เครื่องราวๆ 10000 บาท รวมจอ และต้องโดนไลเซน Windows แท้อีก 4000-6000 บาทแล้วแต่รุ่น แต่เดี๋ยวนี้ ซื้อ tablet กับจอ เสียบ HDMI ทำงานได้เลย แถมมีไลเซน Windows 8.1 Bing และ ในกล่องยังแถม Office Personal 365 มาอีก ใช้ได้ 365 วัน

5. ด้านบน - มีไฟสถานะเครื่อง และปุ่ม On/Off

6. ด้านล่าง - ลำโพง (ไม่รู้เป็นสเตอริโอไหมนะครับ) Micro USB ให้เสียบที่ชาร์จ และต่อสาย OTG และรูเสียบหูฟัง 3.5 มิล ครับ

สำหรับ Windows 8.1 With Bing จะมีหน้าการทำงาน 2 แบบนะครับ

1. แบบ Desktop เหมือนคอมตั้งโต๊ะทั่วไป ดังนั้นคุณสามารถลงโปรแกรมต่างๆที่คุณชื่นชอบได้เลย หรือจะลงโปรแกรมสำนักงานที่ใช้ประจำๆก็น่าจะได้ ถ้าไม่ติดว่าจอมันเล็ก

2. Modern UI (เมื่อก่อนมันชื่อ Metro) มันจะเหมือนกับเอา Icon ต่างๆของ App ที่ซื้อจาก Store มาลงรวมไว้ที่จอนี้ เหมือนจอ App ของ Android และ iOS เลยครับ

การใช้งาน โดยรวมต้องแบ่งเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่ง Desktop ถ้าคุณเปิด Desktop มาจะพบว่า ขนาดตัวอักษรต่างๆ มันเล็กมาก เพราะจอ 8 นิ้ว Resolution จอดัน 1280x800 ตัวอักษรจิ๋วหลิว เลยตั้งปรับขนาดพวก icon ให้มันแสดงแบบ 120% จะพบว่าขนาดมันกำลังพอดีๆ ไม่ใหญ่ ไม่เล็กเกินไปดังรูป


คือ Desktop นี่เหมือนคอมตั้งโต๊ะเดิมๆ เลย ใช้งานได้ดีมากและลงโปรแกรมดูหนังที่ชื่นชอบได้สบาย (ไหนเอ็งว่าเอามาทำงาน 555) ดังนั้นโปรแกรมต่างๆที่เป็น .exe ลงได้เลยนะครับ ผมลองลงไปหลายโปรแกรมก็ใช้งานได้ปรกติ ทั้งโปรแกรมดูหนังต่างๆ Office 365 Personal ที่แถมมา และ พวกโปรแกรม Zip ทั้งหลาย

ฝั่ง Modern ก็เรียง App งงตามแบบฉบับ Windows เค้าหละ แต่ถ้าใช่ไปซักแปปจะเข้าใจว่า มันก็เหมือนๆกับ Android และ iOS แหละ โดยจะมีการโหลด App ต่างๆจาก Store ที่เป็นปุ่มเขียวๆรูปถุง แปะโลโก้ Windows จะมีให้เราใส่เลขบัตรเครดิตผูกกับ Account ของ Mail (ของผมใช้ Hotmail) โดยตั้งได้ว่าทุกครั้งที่จะโหลด App ต้องใส่รหัสก่อนกันโดนคนมากดมั่วๆแล้วซื้อทันที

แต่ App นี่ มีน้อยมาก App หลักๆที่ใช้ใน Android และ iOS แทบหาไม่เจอ ถึงขั้นมีงง ความลื่นนี่ ลื่นมาก การเปิด app ต่างๆทำได้รวดเร็วแค่อึดใจ ไม่น่าเชื่อว่า Intel Atom จะดีอย่างนี้ ยังไม่เจอมันแฮ้งหรือแลคเลย

ด้าน MS Office หละ
แน่นอน จุดสำคัญมันอยู่ที่เจ้านี่

ลองไฟล์ Word ก่อน เปิดมาก็แบบเดียวกับที่ใช้ปรกติแหละครับ สวยงาม เปิดได้รวดเร็วแม้ว่าจะมีรูป และเนื้อหากว่า 21 หน้า ซึ่งผมประทับใจนะ มันเหมือนคอมตั้งโต๊ะเลย

แล้ว Excel นี่ผมลองเอาที่ใช้งานจริงกันมาเลย

เป็น File Stock ที่ใช้จริง เปิดมาเหมือนปรกติไม่มีผิดเพี้ยน ซึ่งผมหาไม่ได้เลยใน App ที่อยู่ใน Android และ iOS ที่จะไม่ทำให้การเปิดดูมีปัญหา และจุดที่สำคัญคือ ถ้าเรากดค้างที่แถบ Sheet มันจะแสดง Sheet ทั้งหมด ขึ้นมาให้เราเลือกว่าจะดู Sheet ไหน ซึ่งไฟล์ Stock ของผมมีเกินกว่า 50 Sheet มันมีปัญหาในการเลือก Sheet จริงๆตอนที่ผมใช้ใน Android และ iOS มันเลือก Sheet ยากมาก ( เข้าใจว่า Google Sheets ทำได้ แต่ไม่เนียนเท่าจริงๆ ) ประทับใจมาก

เรื่อง MS Office ที่จะเอามาเล่าก็คือ ในกล่องเค้าจะแถม Key มาให้นะครับ ซึ่งผมเข้าใจครับว่ามันต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์อายุการใช้งาน

แต่เท่าที่ผมได้สัมผัสกับน้องพนักงานขาย Acer ที่เซ็นทรัล บางนา และ เมกาบางนา น้องเล่าว่า ลูกค้าที่ซื้อไปมีกลับมาโวยว่า มันใช้ได้แค่ 30 วัน ซึ่งพนักงานก็ไม่มั่นใจในข้อมูลเท่าไหร่ (ทาง Acer ควรแจ้งพนักงานเรื่องนี้นะครับจนพนักงานบอกผมว่า ใช้ได้แค่ทดลอง 30 วันครับ คือพนักงานยังไม่แน่ใจเลย บริษัทคงแจ้งมา 1 ปี แต่คนเอาไปใช้ทำไมได้ 30 วัน )

พอเรากดที่ตัว App ของ MS Office 365 Personal มันจะให้ใส่ Key แต่ถ้าคุณกด Try มันจะเป็นทดลองใช้ 30 วันไงครับ (เพราะ Key มันอยู่ในซองส้มๆที่แถมมาในกล่อง ยังไม่ได้ดูในกล่องให้ครบถ้วนก่อน ) พอขึ้นว่าหมด 30 วัน เอาแล้วไง ไปเฉ่งเด็ก Acer ทันที

ซึ่งจริงๆแล้ว มันแถมมา 1 ปีนะครับ แต่ผมมั่นใจว่าน่าจะยังงงกับวิธีการลงทะเบียน
( ถ้าคนไม่เคยใช้แท้น่าจะมีงงกับระบบลงทะเบียนของ Microsoft 365)

MS Office Personal ตัวนี้ต้องทำการลงทะเบียนยังไงหละครับ และการจะลงทะเบียนคุณต้องสร้าง Account ของ Microsoft ก่อน ซึ่งก็ไม่ยาก ก็เอา Email Hotmail มาผูกนี่แหละครับ (บางคนรุ่นใหม่ๆ Email เป็น Live.com แล้ว) โดยเข้าไปที่ https://office.microsoft.com/ และตั้งแต่มี Windows 8 มา MS ก็พยายามที่จะให้ทุกๆคน ผูก Email เข้ากับ Device เหมือน Apple ID ของ iOS และ Google mail สำหรับ Android  ยังไงหละครับ

ผูก ID แล้วจะได้ผูก บัตรเครดิต เอามาตัดเงินค่า App ง่ายไงหละครับ โลกมันเปลี่ยนไปเป็นการโหลดทุกอย่างจากเนต แต่ผู้ใช้ MS Windows หลายคนยังใช้แค่ฝั่ง Desktop อย่างเดียวไม่ได้ลงทะเบียน Email ผูกไว้ ( หลายๆคน User ตามบ้านยังใช้ไลเซนเถื่อนอยู่เลยนะครับ พอมาฝั่งแท้ เลยไปไม่เป็น ) เลยไม่ได้สร้าง MS Account เพื่อผูกบริการกับ Device ยังไงหละครับ ( คือเราสามารถตั้งเป็น User ธรรมดาก็ได้ แต่จะโหลด App จาก Store ไม่ได้ครับ ) ดังนั้นหลังลงทะเบียนแล้ว ที่ App Office 365 ในเครื่องจะถามว่าเข้าใช้ด้วย Office Account ไหม พอเรากดมันจะต่อไปหา Account ของ Microsoft และเช็คว่าคุณมี ไลเซน อะไรบ้าง หลังจากนั้นก็จะใช้ได้ 1 ปีครับ ( มันจะเหมือน Antivirus ที่เราซื้อ Key Code มาต่ออายุทุกๆปี ) ยุ่งดีไหมหละครับ 555 นี่ยังน้อยนะครับ

ส่วนตัวผมเองใช้ไลเซนแท้ ณ ที่ทำงาน (SME เล็กๆ) ยุ่งยากกว่านี้หลายเท่าครับ เล่าให้อ่านกันเล่นๆ

คือ Microsoft เค้าปกป้องไลเซนของเค้ามากกกกก นะครับ
ผมใช้ MS Windows 7 ที่ทำงาน ทั้งแบบ Home และ แบบ Ultimate โดยซื้อแบบเป็นกล่อง ที่เรียกว่า FPP (ไม่รู้ย่อมาจากอะไร แต่ผมเรียกว่าแบบมีกล่อง) คือเราสามารถย้ายเครื่องที่จะลงได้ โดยก่อนย้ายเครื่อง คุณต้อง Format Harddisk เครื่องเก่าก่อน ให้มัน Online จับไลเซตได้แค่เครื่องเดียว ซึ่งถ้าคุณซื้อแบบ OEM ที่แถมกับ Notebook (หรือแบบที่เป็นซอง) จะไปลงเครื่องอื่นไม่ได้ ถ้าคอมเสีย ไลเซนจะตายไปกับคอมเครื่องนั้นๆเลย
ราคาของ OEM จะถูกกว่าแบบกล่องราวๆ ครึ่ง/ครึ่ง แต่ผมใช้แบบมีกล่องเพราะเผื่อเปลี่ยนเครื่องคอม

ทุกครั้งที่จะย้ายเครื่อง (ย้ายไลเซน) ต้องโทรไปหา MS เพื่อขอ Key ใหม่นะครับ อุตะ ยุ่งยากมาก ต้องโทรคุยกันแล้วแจ้งชุดตัวเลขที่ปรากฎบนจอเราให้เค้าฟัง แล้วเค้าจะบอกตัวเลข Key ใหม่ให้เราใส่ยุ่งยากมากมาย
แต่ยังแฟร์นะครับให้ใช้ ตัว OS ได้ทุกตัวในที่ทำงานตั้งแต่ MS Windows 7 Starter เลย

แต่สำหรับ MS Office ซุปเปอร์ยุ่งยากวุ่นวายมากที่สุดใน 3 โลก
และผมมั่นใจว่ายังมีคนที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับไลเซนของ MS Office อยู่อีกมาก แม้กระทั่งพนักงานขาย Software ของ MS เอง

โดยตั้งแต่ MS Office 2010 ดันเกิดออกมาหลายรุ่นซึ่งผมจำลางๆได้ว่ามีรุ่น (ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต)

Home & Student โดยข้างกล่องเขียนว่า Microsoft Office Home & Student โดย ข้างกล่องคำว่า OFFICE HOME & STUDENT มันตัวโตมากกกกกกกกกก ลองไป Search หาดูรูปใน Google กันนะครับแล้วจะเห็นภาพ

ตอนแรกผมยังเข้าใจเลยว่า แม่เจ้าใช้ใน Office ได้ด้วย แต่ไม่ใช่ครับ คำว่า Office คือชื่อของมันเฉยๆ

สามารถลงได้กับ PC 3 เครื่อง ใช้ได้แค่ Word Excel PowerPoint OneNote เอาแล้วไง คนไม่รู้ ดูที่ข้างกล่อง โอ้ลงได้ 3 เครื่อง แผ่นแท้ อืม ที่ทำงานมี 6 เครื่อง ซื้อ 2 ไลเซน ได้อุดหนุนของแท้แล้วเรา 2600 - 2800 บาท แต่ไอ้ที่อุดหนุนเนี่ย ผิดไลเซนนะครับ ใช้กับที่ทำงานหารายได้ไม่ได้ขอรับ ถ้าโดนตรวจ อาจถูกปรับอีก (ไม่มีปรับไหม อาจแค่เตือนให้ใช้ให้ถูกต้อง) ทั้งๆที่อุดหนุนแท้ เพราะมีการเอามาหากำไรใช้ในองค์กร ใช้ได้แค่ภายในบ้านเท่านั้นค้าบ

อีกรุ่นคือ Microsoft Office Home & Business อันนี้ยิ่งงง

คือลงกับ PC ที่ทำงานได้ 1 เครื่อง และลงกับ Notebook ส่วนตัวได้ 1 เครื่อง (ไอ้ Notebook ส่วนตัวคือ เอ็งห้ามเอามาทำงานหารายได้) งงดีไหม ไลเซนเค้า

ส่วนอีกอันเป็น Version 2013 ที่ผมใช้ อันนี้ถ้าไม่โทรคุยกับเจ้าหน้าที่ MS มีเอ๋อแดกแน่
Office Home & Business 2013 ไอ้อันนี้คือใช้กับที่ทำงานได้ ลงได้แค่ 1 เครื่องอีก แต่ข้อกำหนดคือ ห้ามคุณใช้แบบนี้ (กล่องละ 6000 บาทได้มั้ง) เกิน 5 ไลเซนในที่ทำงาน เพราะกล่องแบบนี้ให้ใช้กับ SME เท่านั้น ที่จะใช้ Office ไม่เกิน 5 เครื่อง ถ้าเกิน 5 เครื่องขึ้นไป ต้องเปลี่ยนทั้งหมดไปใช้ MS Office Professional 2013 แทน 7-8000 บาท หรือราคาเกินกว่านั้น จำไม่ได้แล้ว ข้อกำหนดเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ โดยเราก็ไม่รู้ถ้าไม่โทรไปถาม

ยุ่งยากไหมหละครับ แล้วไอ้ Office 365 Personal ก็อีก ห้ามใช้ในองค์กรนะครับ (Tablet เครื่องนี้ ผมใช้ส่วนตัวคับ อย่ามายุ่งกะผมนะครับ MS 555) โดยทาง MS ก็ใจดีนะครับ ปีละ 1900 บาท ใช้กับ PC ได้ 1 เครื่อง และ Tablet ได้อีก 1 เครื่อง ใจดี้ใจดี 1900 บาท : 1 ปี

แต่ถ้าสำหรับ Home Use 365 Home นี่ลงได้ 5 PC + Tablet อีก 5 เครื่องและโทรศัพท์ 5 เครื่องนะครับ ถ้าจำไม่ผิด แต่ห้ามใช้กับองค์กรอีกแล้ว ปีละ 2600 บาท (คือบอกตงอะนะครับ ใช้กับที่บ้านนี่ ผมว่าถ้ายังกำหนดงงๆแบบนี้ คนมีตังน้อยเค้าไปทางสายมืดกันหมดนะครับ ขอราคาถูกๆ ID เดียวใช้ได้ทุกเครื่องได้ไหมอะครับ คนเรามันจะมีเหรอครับ บ้านนึง PC 5 เครื่อง Tablet 5 เครื่อง และมือถือ Microsoft 5 เครื่อง 55555555555555 เห็นชอบเลข 5 ผมว่าไอ้ Tablet 5 เครื่องนี่แหละเป็นไปได้ คือ มันแทบหมดยุค PC ที่บ้าน และนี่ MS คุณยังคิดว่าจะมีคนใช้มือถือ MS ถึงบ้านละ 5 เครื่องหรือครับ คือ App Office 365 ใน iOS และ Android ก็ยังไม่ปล่อยออกมาให้ใช้ในไทยซักที ) อย่าบอกนะครับว่าจะแชร์กับเพื่อนให้ได้ PC 5 เครื่อง หารกันจ่าย เพราะมันมีอายุ 1 ปีนะครับ ปีหน้าก็ต้องมาคุยกันใหม่อีก ถ้าปีหน้าคนที่แชร์ด้วยบอกว่า ไม่เอาแล้ว ต้องหาคนแชร์ใหม่ เหนื่อยไหมหละครับ

แล้วจะมีกี่คนที่จะรู้เรื่องไลเซนครับ คือไม่ใช้แค่แท้นะ แต่ต้องใช้ให้ถูกทางด้วย เหนื่อยแทนคนขายและคนใช้

นี่ไงละครับความเคี่ยวของ Microsoft คือเจ้าอื่น (หมายถึง App Office) นี่เค้าซื้อทีเดียวใช้ได้ทุก Device กันแล้วนะครับ บอกตรงๆครับ ถ้าวันนึง Google มันฉีกหน้าโดยทำให้ Google Doc Sheet ทำ OS มาให้มันใช้กับ PC และทำงานได้ดีกว่านี้นะครับ ระวังจะไม่มีจุดยืน เหมือนกับ Device ที่คุณต้องมาเลื่อยขาตัวเองไม่คิดไลเซน หรือ ทำ 8.1 With Bing ออกมานะครับ บ่นยาวเลย 555


คีย์บอร์ด ราคา 690 บาท

คีย์บอร์ดตัวนี้ทำงานได้ดี เบา และ บางมากครับ รองรับภาษาไทยเรียบร้อย ขนาดกำลังพกพาไปไหนมาไหนได้ดี แต่มันไม่ได้เป็นเคสของเครื่อง W4 นะครับ ดังนั้นเท่ากับคุณต้องแบกอุปกรณ์ไป 2 ชิ้นนะครับ

สรุป ลองใช้มา 2 วัน เปิดแต่ฝั่ง Desktop ก็นะ มันถนัดอ่ะ

ข้อดี

ความเร็วในการ Boot และเปิด App ต่างๆ ไวมากครับ ทั้งฝั่ง Desktop และ Modern

ผมลองลงโปรแกรมดูหนังโดยผม Stream ผ่าน NAS (เป็นเครื่องที่เรายัด HDD เข้าไปและเก็บข้อมูลต่างๆผ่าน Network ในวงแลน) โดยใช้ Wifi ระยะห่างระหว่างตัวกระจายสัญญาณ กับ Tablet ห่างกันราวๆ 7-8 เมตร (แหม่ คอนโดมันเล็กอ่ะ) ดูหนัง 1080p สบายๆ ไม่มีแลคเลย ปรับพวกคำบรรยายก็ง่าย ไม่เหมือน iOS กับ Android พวก App ดูหนังจะมีปัญหากับการเปิดซับไตเติลจริงๆ

การเล่นเนตก็จับ Wifi ได้รวดเร็ว เล่นเนตได้ปรกติ ติดที่พอจอ 8 นิ้วกับ โปรแกรม Browser Firefox และ Chrome มันทำให้ tab ด้านบนมันเล็กไปหน่อย กดยาก แต่ที่ได้มาคือมัน Support Flash 100% ไม่ต้องมีปัญหาเหมือนใน Android และ iOS แล้ว

MS Office ทำได้ทุกอย่างที่ผมต้องการปรกติ ซึ่งดีมาก

ข้อเสีย

พอจอ 8 นิ้ว ฝั่ง Desktop มันเลยใช้ยากๆ คือมันเล็กไปหมด แต่ก็พอได้ คือ มันเหมาะกับฝั่ง Modern UI มากกว่า

เครื่องมีน้ำหนักพอสมควร

ผมลองเอา Mouse Apple มาต่อ Bluetooth โดยลง Driver ที่ใช้ในคอมอีกเครื่องเข้าไปเท่านั้นหละ Bluetooth ทำงานเพื้ยนทันที กด Keyboard ที่ต่ออยู่ก่อนแล้วเอ๋อมาก พิมพ์ไปหลายตัว ติดอยู่ไม่กี่ตัว แต่พอเอา Mouse ที่ Connect ออก ก็หาย ยังไม่รู้เพราะ Driver ของ Mouse มันไม่ Support หรือเปล่า เดี๋ยวลองเอา Mouse Logitech มาต่ออีกทีจะมาแจ้ง

USB OTG และ รูชาร์จ เป็นช่องเดียวกัน ดังนั้นเวลาจะต่อ Device หลายๆตัว มีปัญหาแน่นอน

USB OTG ไฟไม่พอไปเลี้ยง External HDD ครับ ใช้ได้แต่ Handy Drive

พื้นที่ใน HDD ที่เหลือ มันน้อยไปนิด เหลือราวๆ 16 GB เอง แนะนำให้หา Micro SD ที่ความเร็วการอ่านเขียนสูงๆ มาใส่เข้าไปด้วยเผื่อเก็บไฟล์งาน ไฟล์ภาพ เพลง หนังต่างๆ แทน HDD หลัก

ปล.
1. ข้อมูลทั้งหมดออกมาจากผู้บริโภคคนนึงที่ซื้อสินค้าเอง จ่ายเงินเอง รีวิวเอง บ่นเอง ดังนั้นไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครนะครับ
2. รูปบางส่วนผมเอามาจากเวปอื่น ภาพสินค้าตัวอื่นที่ผมไม่ได้ถ่ายเอง เอามาจากเวป Official ของแต่ละสินค้า ถ้ามีปัญหา แจ้งผมมานะครับ เดี๋ยวผมเอารูปออกให้ครับ
3. ภาพที่ผมถ่ายแบบห่วยๆ ไม่มีขาตั้งกล้องเลยสั่นไหวบ้าง ใครอยากเอาภาพไปใช้ เชิญเลยครับถ้าผ่านมาอ่าน
4. การที่ผมให้ข้อมูลต่างๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาด กรุณาแจ้งครับ ผมจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง เพราะผมก็เข้าใจแบบนี้ ธรรมดาของผู้บริโภคคนนึง ที่ไม่ได้เข้าใจสุดๆเหมือนเจ้าของผลิตภัณฑ์หรอก
5. ถ้ามีการพาดพิงถึงใครและไม่พอใจ แจ้งได้นะครับ ยินดีเอาข้อมูลออกครับ เพราะ Blog นี้ผมพิมพ์ไว้อ่านเองอยู่แล้ว