18 มีนาคม 2558

รีวิวกระเป๋ากล้อง Manfrotto Unica III Messenger Bag ดีงามมากเลยครับ แต่ (กด+ แต่ไปเยอะๆๆๆ เลยหละ)

17 มีนาคม 2558

คำนำ

เนื่องจาก เดิมผมเล่นกล้อง DSLR Nikon ซึ่งรุ่นที่ผมใช้มาก่อนคือ D90 ครับ ถ้าคนเคยใช้ D90 มาก่อนจะเข้าใจว่า Body ทำมาได้ดีมากครับ ดูทนทาน แข็งแกร่ง บึกบึน แต่สิ่งที่ตามมาด้วยคือ น้ำหนัก ครับ

และสิ่งที่ทำให้ผมอยากเลิกแบกมันคือ ลูก ครับ เผอิญปี 2557 ช่วงปีใหม่พาลูกไปเที่ยวหัวหิน และแบกไอ้ D90 ไปด้วย รู้เลยว่า โอ้แค่ของขุ่นลูกก็เต็มมือแล้ว แบกกล้องไปอีกกระเป๋าแทบจบข่าว ไม่ได้ถ่ายอะไรเลย ได้รูปมา 10-20 ภาพ เศร้ามาก

ทำให้ผมกลับมาคิดว่า อะไรดีน้าที่จะได้ รูปลูก และแบกไม่หนัก

แรกๆก็คิดถึง มือถือ เพราะเดี๋ยวนี้มือถือก็ไม่ใช่เล่นๆนะครับ กล้องของมือถือคุณภาพไกลมาก แต่. . . ถ้าดูในจอมือถือ ภาพก็ดีอะนะ แต่ถ้าเอาภาพมาเปิดในคอมพิวเตอร์หละ ไม่งามเลย เลยมองอย่างอื่น
ทีนี้ก็เลยเปิดไปดูกล้องที่เล็กลง และได้มาเจอคำว่า Mirrorless ครับ แม่เจ้า กล้องนี่ภาพคุณภาพดีมาก ตัวก็ไม่ใหญ่ ภาพก็ดี เบาอีกต่างหาก แถมมันดันเปลี่ยนเลนส์ได้ด้วย

ขาย D90 ทิ้งทันที แม้นายจะอยู่กับเรามานาน แม้เราจะซื้อนายหลังเราแต่งงานได้แปปเดียว แต่ตอนนี้นายหนักเกินกว่าเราจะรับไหวแล้ว จากลากันด้วยดี ไปหาเจ้าของใหม่ แล้วรีบไปถอย FUJIFILM X-A1 มาทันทีทันใด

นอกเรื่องนิด ทำไมเป็น FUJIFILM X - A1 เพราะมันเบา ไม่แพง และโหมด AUTO มันดีมากครับ เซ็นเซอร์ก็เป็น APSC ไม่ได้เป็นพวก Micro 4/3 ที่เล็กลง ก็อยากได้ภาพดีๆอะนะ แถมช่วงนั้น FUJI ก็มาแรงมาก จนถึงวันที่เขียน Blog นี้ ( ตอนนี้ถอย FUJIFILM X-E2 และ  FUJIFILM X-A2 มาแล้ว 55 )

และสิ่งที่ตามมาคือ กระเป๋ากล้องใหม่ครับ ( เข้าเรื่องซักที ) แล้วทำไมตอนเอ็งมี D90 แล้วเอ็งไม่มีกระเป๋าหรือไง คำตอบคือ แถมให้เค้าไปหมดตูด หลอกล่อให้คนมาซื้อ D90 ไปจนเหี้ยนเต้แล้วค้าบ หมดจริงๆ คือขายหมดเกลี้ยง เลนส์เลิน กับ Nikon หมดบ้าน หมดเวลาแบกแล้ว

กระเป๋าใบแรกกับ กล้อง Mirrorless ก็ไม่ใช่ใครครับ มันก็คือ Manfrotto Unica I Messenger Bag เหมือนกับใบที่รีวิวนี่แหละ

ทำไมไม่เปลี่ยนยี่ห้อบ้าง ทำไมยังซื้อ Manfrotto Unica III Messenger Bag อีกหละ อ้าว ก็ของมันดีอะนะ ทำไมจะไปเสี่ยงดวงเปลี่ยนไปใช้ ยี่ห้อใหม่ รุ่นใหม่ แล้วไม่ตรงใจหละ ถามมาได้

แล้วทำไมเปลี่ยนใบอีกหละ ก็ไหนเอ็งว่า Manfrotto Unica I Messenger Bag มันดี คำตอบคือ กำลังจะไปเที่ยวต่างประเทศแล้วต้องการกระเป๋าที่ใส่ขาตั้งกล้องได้ในใบเดียวอะครับ แถมตั้งแต่มาเล่น Mirrorless เลนส์แม่งงอกง่ายมากเลยครับ ตอนนี้กลายเป็นสะสมไปหลายตัว

แล้วในระหว่างที่คิดจะซื้อใหม่ แอบมองตัวเลือกอะไรบ้าง

ถ้าเพื่อนผมมาอ่าน Blog นี้จะรู้เลยว่า ผมไม่เคยมีกระเป๋าสะพายหลังเลยซักใบ ผมเป็นคนชอบกระเป๋าสะพายข้างมาตั้งแต่เด็กครับ มีมากี่ใบต่อกี่ใบ สะพายข้างตลอด จนไหล่ข้างขวาที่สะพายมันยุบกว่าไหล่ข้างซ้าย เสียสรีระร่างกายเลย แต่สุดท้ายก็เอาสะพายข้างอีกแหละ

1. ใบแรกที่คิดไว้เลยนะครับ Tenba DNA Messenger DNA 13 สี Graphite ราคา 3790 บาท

ขอบคุณภาพจากเว็บ Tenba ครับ

แม่เจ้าเห็นแว๊ปแรก ในเว็บ Lazada ชอบมากเลยครับ เลยแอบไปดูรีวิวใน Youtube มันดูดีมากเลยครับ มีหลายขนาดให้เลือก ขนาด 11 13 15 (ชื่อมันตามขนาด Notebook เลยครับ เพราะมันใส่ Notebook ได้ ) เทคโนโลยีต่างๆดี มีช่องข้างในเพียงพอต่อความต้องการ แต่ดันไม่มีที่ใส่ขาตั้งกล้อง แต่ก็เป็นตัวเลือกแรกเลย เพราะจริงๆในใจก็อยากใช้ของแบบใหม่ๆบ้าง

2. Manfrotto Unica III Messenger Bag ราคาที่ Fotofile กำลังลดเหลือ 2200 บาท จาก 2790 บาท

 ขอบคุณภาพจากเว็บ Manfrotto ครับ

คือ ตั้งแต่ใช้กระเป๋ากล้องมา ผมติดใจไอ้ รุ่น I มากเลยครับ กันน้ำ มีซิ๊ปด้านบนเปิดเอากล้องออกมาถ่ายง่ายมาก มีช่องด้านหน้าใส่อุปกรณ์ได้หลากหลาย แต่ตอนนี้อยากได้แบบใส่ขาตั้งกล้องได้ เลยไปดูพวกรีวิวต่างๆ แต่ก็งงครับ รุ่น III บางรุ่นมีที่ใส่ขาตั้งกล้อง บางรุ่นไม่มี เอาหละสิมีงง ขนาดไปดูเว็บของ Manfrotto เองยังไม่เห็นมีซิ๊บใส่ขาตั้งกล้องดังภาพด้านบน

3. Manfrotto Unica V Messenger Bag

ขอบคุณภาพจากเว็บ Manfrotto ครับ

รุ่นนี้เหมือนรุ่น 3 เลยแต่ใหญ่กว่ามาก แต่ในเว็บต่างๆ และรีวิวใน Youtube แสดงถึงที่ใส่ขาตั้งกล้องแบบชัดเจน ราคา ไม่ได้หาครับ เพราะสุดท้ายไปซื้อรุ่น 3 เพราะโทรไปถามมาว่ามีที่ใส่ขาตั้งกล้องแน่นอน และที่สำคัญคือ รุ่น V ขนาดกระเป๋ามันใหญ่มากๆ จนเกินกว่า Mirrorless แล้วครับ

สุดท้ายก็ได้ Manfrotto Unica III Messenger Bag มาจาก Fotofile เซ็นทรัลบางนาครับ เพราะ Tenba ไปเดินหาตัวเป็นๆตามร้านขายอุปกรณ์กล้อง ไม่มีใครขายเลยครับ แถมราคาแพง และวัสดุมันไม่กันฝนอีก (แค่แถมผ้าคลุมกันฝนนะ) ไอ้ประเทศที่ผมจะไปก็ดันขึ้นชื่อเรื่องการพยากรอากาศที่แม่นยำ และอาจมีฝนตกได้ตลอดปีด้วยสิ (ญี่ปุ่นอะ)

รีวิว กันเลย น้ำเยอะไปแล้ว

Manfrotto Unica III Messenger Bag ชื่อนี่รู้เลย สะพายข้างชัวร์ ทำไมอยากรู้จริงๆ ใครตั้งชื่อกระเป๋าสะพายข้างว่า Messenger Bag นะ เข้าท่าจริงๆ สีที่ผมได้มาคือ สีแดง แรงฤทธิ์ ครับ (ใบแรกไม่ได้ซื้อสีแดงเพราะสีแดงเป็นรุ่น Limited ที่ออกมาสำหรับรุ่น 3 และ รุ่น 5 ครับ)

ขอกล่าวถึง Manfrotto Unica I Messenger Bag เพื่อเปรียบเทียบด้วยนะครับ


ถ่ายภาพโดยเอาวางด้านหน้าก็จะเห็นแล้วว่า รุ่น I เล็กกว่ารุ่น III พอสมควรนะครับ


เปิดกระเป๋าออกมาจะมีช่องซิ๊บที่ด้านหน้า ซึ่งใส่ของจุกจิก เช่นปากกา เลนส์เพ็น แบตเตอรี่สำรอง กล่องใส่ SD Card พาสปอร์ต ได้แบบสบายๆ


ด้านในคือความดีงามของ Manfrotto เลยครับ มันรูดซิ๊บด้านบนเปิดหยิบกล้องได้เลยสะดวกมากๆครับ ผมยัด FUJIFILM X-E2 ลงไปโดยติดเลนส์ Kit 18-55 เอาไว้ ก็แบบว่าพอดีๆกับขนาดกล้อง โดยอีกด้านที่เหลือผมเอาตัวคั่นมาขั้นระหว่างเลนส์ 18 มม. และ 35 มม. ไว้แบบเฉียงๆ เท่าที่ผมลอง 1 กล้อง Mirrorless กับ 2 เลนส์ ก็หมดที่แล้วครับ สำหรับรุ่น I โดยด้านหลังมีช่องให้เราใส่ Ipad ขนาดปรกติได้ 1 เครื่อง

สำหรับ Manfrotto Unica III Messenger Bag


เนื้องานด้านนอกเหมือนรุ่น I แหละครับ ทำจากวัสดุเป็นผ้า สีแดง กับ สีขาว ตัดกันเป็นโลโก้ของ Manfrotto และมันกันน้ำได้ด้วยตัวมันเอง ดีงามมากครับข้อนี้ ผมชอบมากจริงๆ เพราะไม่ต้องกลัวว่าของข้างในจะเปียก ไม่ต้องเอาผ้ามาคลุมอีกที เพื่อป้องกันฝน



เปิดกระเป๋ากล้องออกมาจะเห็นว่า มีหนามเตย อยู่ 2 วงกลมเพื่อเอาไว้ให้กระเป๋ามันยังปิดอยู่แม้ว่าเราจะไม่คลิ๊ปเพื่อล๊อกกระเป๋าด้วย และยังช่วยดึงฝาหน้าไว้เวลาที่เราเปิดกระเป๋าหยิบกล้องด้วยซิ๊บด้านบน ส่วนช่องเก็ของด้านหน้า ผมย้ายของมาจาก Manfrotto Unica I เห็นเลยไหมครับว่าที่เหลือมากเนื่องจากความกว้างของกระเป๋ามันมากขึ้นเยอะ


ซิ๊ปด้านบน ทำให้เราสามารถเปิดออกมา แล้วเอากล้องออกมาได้ง่ายดายมากๆครับ


ช่องด้านในใส่ กล้อง FUJI X-E2 เหลือที่สบายๆ และสามารถยัดเลนส์ได้ ผมว่าเผลอๆ 4 ตัวเลยนะครับ ช่องกว้างดีมาก และคอนเซ้บเดิม มันใส่ Notebook ขนาดซัก 14 นิ้วได้หละ



ส่วนด้านล่างนี่คือจุดวัดการซื้อกระเป๋าใบนี้เลย ผมต้องการจบใบเดียวคือ เอาไปทุกอย่างครบ ดังนั้นผมจึงต้องการที่จะเอาขาตั้งกล้องยัดเข้าไปด้วยครับ พอรูดซิ๊บออกมา จะพบช่องว่างขนาดกำลังพอดีๆ ทำให้ยัดของเข้าไปได้เพิ่ม ซึ่งผมเอามาใส่ขาตั้งกล้องครับ ขนาดของขาตั้งกล้องที่ผมใช้ มี 2 ยี่ห้อ

1. Fotopro X4i-E สีส้ม ยาวประมาณ 30 ซม. และพอพับแล้ว สูงประมาณ 9 ซม. ก็ยัดเข้าไปได้แบบสบายๆ

2. Sirui รุ่น T005 ยาวประมาณ 33 ซม. และพอพับแล้ว สูงประมาณ 8 ซม. ก็ยัดเข้าไปได้แบบสบายๆครับ พอดีๆมาก

ซึ่งขอกล่าวถึงขาตั้งกล้องทั้ง 2 ตัวเล็กน้อย เดิมทีพอผมรู้ว่าจะได้ไปทริปนี้ ผมเลยไปถอย Sirui รุ่น T005 เพราะกะซื้อขาตั้งกล้องใหม่อยู่แล้ว และอ่านๆมาคิดว่ามันเบากว่า เล็กกว่า คนอื่นรีวิวไว้ 800 กว่ากรัม

ที่ไหนได้ หนัก 1 กก. เท่ากัน กับ Fotopro X4i-E เปะๆ และพอพับแล้ว ดันยาวกว่าอีก 3 ซม. ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ซื้อ Fotopro X4i-E อีกอันดีกว่า เท่าที่ลองใช้ ประทับใจเจ้า Fotopro X4i-E กว่า Sirui มาก ทั้งวัสดุงาน ความยืดหยุ่นในการกางขา หัวบอล และ เพลท (เข้าใจว่า Sirui มันถูกกว่าเกือบ 1000 บาท แต่ยังไง Fotopro X4i-E ดีกว่าในทุกด้านจริงๆ ยอมเพิ่มเงินไปเลยดีกว่า เศร้าแท้)

ซึ่งขาตั้งกล้องทั้ง 2 ใส่ได้อย่างสบาย ถ้าขนาดใหญ่กว่า Sirui T005 นี่ ใส่ไม่ได้แล้วนะครับ

และถ้าคุณไม่ใส่ขาตั้งกล้องหละ ชั้นที่แบ่งระหว่างขาตั้งกล้อง กับ ช่องที่ใส่ กล้อง + เลนส์ มันมีซิ๊บอยู่ครับ สามารถรูดเพื่อเอาพื้นของชั้นที่วางกล้องออกได้ ดังนั้นจะใส่ของได้จุขึ้นมากๆครับ เผื่อเอาไปใส่อย่างอื่นได้เลย



ด้านหลัง และด้านล่าง เป็นผ้าสีดำครับ นิ่มๆน่าจะบุฟองน้ำเอาไว้

ดีงามมากจริงๆ แต่ ขอไล่เป็นข้อๆ เพื่อการตัดสินใจของคนที่ยังไม่ได้ซื้อ

ข้อดี

1. กันน้ำ
2. รูดซิ๊บเจอกล้องง่าย
3. ช่องใส่กว้าง ใส่เลนส์เพิ่ม เป็น 4 ตัว หรือใส่ Body Mirrorless ได้อีกตัวเลยเอ้า
4. ใส่ขาตั้งกล้องได้สบายๆ
5. ใส่ Notebook ขนาด 14 นิ้วได้

ข้อเสีย ขนาดที่ผมคิดว่าถ้าย้อนเวลาไปได้ ถ้ารู้อย่างนี้ สงสัย ไม่ซื้อดีกว่า

1. น้ำหนักกกกกกกกกกกกก กด ++++++++++ ไปอีก 10 รอบเลย เพราะเดิมๆ แกะกระเป๋าเปล่าๆออกมาก็หนักเกินกว่า Unica I ไปพอสมควรแล้ว มันชักจะผิดคอนเซ็บของ Mirrorless แล้วครับ

2. ใส่ของได้เยอะขึ้น เท่ากับน้ำหนักที่มากขึ้น แล้วดันสะพายแค่ข้างเดียว ไหล่ทรุดแน่

3. พอมีที่ใส่ขาตั้งกล้องก็เลยยัดมันเข้าไป หนักไปอีก 1 กิโลกรัม

4. บาลานส์ ของกระเป๋าเมื่อเราใส่ขาตั้งกล้อง คือถ้าเราใส่ขาตั้งกล้องแบบยัดไปตรงๆ ใส่ไว้ลึกสุด จะเกิดเหตุการณ์ หน้าทิ่มครับ กระเป๋าจะเสียบาลานส์ไปในทันที ทริคคือ ต้องใส่ขาตั้งกล้องแบบ เฉียงๆ เพื่อกระจายพื้นที่ให้รองรับน้ำหนักกล้อง ที่อยู่ด้านบน

5. บาลานส์ ของกระเป๋าเมื่อเราไม่ใส่ขาตั้งกล้อง และไม่ได้แกะชั้นคั่นระหว่าง กล้อง กับ ขาตั้งกล้อง ออก คือมันวางกระเป๋าแล้ว หน้าทิ่มเหมือนกัน เพราะกล้องก็มีน้ำหนัก มันลอยๆอยู่บนชั้นตรงกลาง ที่ด้านล่างช่องใส่ขาตั้งกล้องที่ว่างเปล่า หน้ามันทิ่มนิดๆ วางไปเรื่อยๆผมว่ากระเป๋าเสียทรงแน่

จบแล้วครับ ขนาดที่แฟนผมยังติงว่า นี่จะแบกไปงี้จริงรึ แค่กระเป๋าของลูกก็เยอะแล้ว ไอ้ใบแดงแค่เอามาถือยังหนักเลย ซึ่งผมก็คิดแบบเดียวกันเลย T_T เศร้า แต่ซื้อมาแล้วอ่ะ ก็ต้องใช้กันไป

ทางแก้คือ ผมจะเอา Unica I แบก FUJIFILM X-E2 ไปเหมือนเดิม พร้อมเลนส์ Kit + 35 มม. แล้ว ใบสีแดง Unica III เอาใส่ขาตั้งกล้องให้น้องชายที่ไปด้วยแบก และ จะไปซื้อ FUJIFILM X-A2 แบบ 2 เลนส์ที่ญี่ปุ่นหละ 55

สรุป
กระเป๋า Manfrotto Unica III Messenger Bag เหมาะสำหรับใคร
ผมว่านะ มันใหญ่เกินกว่า Mirrorless แล้ว แต่แค่มันใบเดียวจบ มีที่ใส่ขาตั้งกล้อง
ผมว่าเอาไว้ใช้ไปถ่ายภาพที่คุณไปถึงที่ ขับรถไปถึงจุดที่จะถ่ายรูป หรือแบกไปไม่ไกลจากที่จอดรถถึงจุดที่ถ่ายรูป แล้วแบกกลับ มันไม่เหมาะเลยครับ ที่จะยัดๆๆๆ + ขาตั้งกล้อง แล้วสะพายไปไหมมาไหนเล่นทั้งวัน ผมว่าจะเสียสรีระร่างการเอาครับ ถ้าจะแบกขนาดนี้ ซื้อแบบสะพายหลังดีกว่าครับ จะได้ช่วยกระจายแรงไปทั้งไหล่ 2 ข้าง และ หลัง

ขอบคุณมากครับ

เหมือนเดิม
1. ข้อมูลทั้งหมดออกมาจากผู้บริโภคคนนึงที่ซื้อสินค้าเอง จ่ายเงินเอง รีวิวเอง บ่นเอง ดังนั้นไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครนะครับ
2. รูปบางส่วนผมเอามาจากเวปอื่น ภาพสินค้าตัวอื่นที่ผมไม่ได้ถ่ายเอง เอามาจากเวป Official ของแต่ละสินค้า ถ้ามีปัญหา แจ้งผมมานะครับ เดี๋ยวผมเอารูปออกให้ครับ
3. ภาพที่ผมถ่ายแบบห่วยๆ ไม่มีขาตั้งกล้องเลยสั่นไหวบ้าง ใครอยากเอาภาพไปใช้ เชิญเลยครับถ้าผ่านมาอ่าน
4. การที่ผมให้ข้อมูลต่างๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาด กรุณาแจ้งครับ ผมจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง เพราะผมก็เข้าใจแบบนี้ ธรรมดาของผู้บริโภคคนนึง ที่ไม่ได้เข้าใจสุดๆเหมือนเจ้าของผลิตภัณฑ์หรอก
5. ถ้ามีการพาดพิงถึงใครและไม่พอใจ แจ้งได้นะครับ ยินดีเอาข้อมูลออกครับ เพราะ Blog นี้ผมพิมพ์ไว้อ่านเองอยู่แล้ว





1 ความคิดเห็น:

  1. สรุปว่า กระเป๋า Manfrotto unica iii กากสัส
    เกือบซื้อมาลองเล่นขำ ๆ เพราะมันถูกแล้วเชียว

    ตอบลบ