8 เมษายน 2558

วันนี้ขอเสนอ อุปกรณ์กล้อง ที่คิดอยู่นานว่าจะซื้อดีไหม Capture Pro Camera Clip by Peak Design

8/4/2015

คำนำ

ห่างหายการรีวิวของไปนาน ตอนนี้ผมมีอุปกรณ์กล้องชิ้นนึงมานำเสนอครับ

อุปกรณ์ชิ้นนี้ผมถือว่าเป็นของสิ้นเปลืองชิ้นนึงเลยครับ เพราะจริงๆ คนใช้กล้อง จะมี หรือ ไม่มี ก็ได้ คือมันไม่ได้เป็นของจำเป็นเท่าไหร่ แต่มันเป็นอุปกรณ์ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเท่านั้นครับ สะดวกยังไง ติดตามกันดูครับ

เกริ่นกันด้วย Youtube ของเจ้าของผลิตภัณฑ์ เลยครับ


ดู Youtube แล้วเป็นยังไงกันบ้างครับ ของเค้าดีไหมครับ มันเพิ่มความสะดวกสบายหลายๆอย่าง ไม่ต้องคล้องกล้องไว้ที่คอตลอด ไม่ต้องเก็บกล้องลงกระเป๋ากล้อง

เอามันง่ายๆ แขวนมันไว้ที่กระเป๋าเราเนี่ยแหละ เวลาหยิบใช้ก็ง่าย ไม่ต้องเปิดกระเป๋า กว่าจะเอากล้องออกมาบางที สิ่งที่จะถ่ายเลยไปซะแล้ว อดภาพที่มีแค่ช่วงเวลานี้ไป หรือบางครั้งถ่ายภาพต่อเนื่อง แต่ต้องการเปลี่ยนเลนส์ หละ ต้องมาหาที่วางกล้อง วางเลนส์อีก วุ่นวาย ในเมื่อกล้องมันแขวนอยู่ เปลี่ยนเลนส์ก็ง่ายขึ้น ทุกอย่างดูดีไปหมด 

แต่ในความเป็นจริงหละ ค่อยอ่านไปนะครับ ผมจะค่อยๆอธิบายไปเรื่อยๆ

มาดูกล่องกันก่อนเลย


วัสดุของกล่องเป็นกระดาษพรีเมี่ยมมากครับ รูปแบบด้านหน้าแสดงถึงการ แขวนหรือจับกล้องไว้ที่กระเป๋าของเรา ดังชื่อของมันเลยครับ Capture + Pro (เพราะมันมีรุ่นธรรมดาด้วย ชื่อ Capture เฉยๆ ไม่ Pro)

ด้านหลังหละ


แสดงถึงการเกี่ยวแขวน กล้อง ในแบบต่างๆ จะทะลึ่งเอาไปคาดเข็มขัดก็ได้ หรือ จะใช้กับกระเป๋าสะพายข้างก็ได้ และ แสดงถึง วิธีใช้ 1 2 3 ซึ่งก็ใช้ง่ายจริงๆครับ

ด้านข้างหละ


ข้างกล่องก็อธิบายถึงสิ่งที่คุณจะได้ไปในกล่องนี้ว่ามีอะไรบ้าง

อีกข้างหละ ไม่ได้บอกอะไรเท่าไหร่ สามารถ สแกนบาร์โค้ท ดู VDO ได้

ด้านบนบอกไว้แค่ใช้กับกล้องอะไรได้บ้าง


ซึ่งใช้ได้กับกล้อง คอมแพค Mirrorless และ DSLR มันก็ครอบจักรวาลแล้วครับ สิ่งที่รุ่นนี้ทำไม่ได้คือ แขวนพวก GoPro ครับ กล้องมันจะชี้ลงพื้น ต้องไปซื้ออุปกรณ์เสริมอีกทีของรุ่น GoPro ครับ

ต่อไปเราเปิดกล่องไปดูของภายในกันเลยครับ

ลักษณะกล่องเหมือนเปิดหนังสือ ก็จะมีเจ้า Capture Pro อยู่ข้างใน (แหม่รูปด้านซ้าย แขวนกระบอกข้าวหลามอยู่)



ดูกันชัดๆอีกครั้งครับ อุปกรณ์หลักๆคือไอ้ 2 ชิ้นนี้แหละครับ


ผมแกะออกมาทั้งหมด ภายในกล่องมีแค่นี้เองครับ เรียงจากแถวบนก่อน ซ้ายไปขวา

1. มีซองกำมะหยี่ให้ใส่ 
2. ประแจ ไว้ไขน๊อตที่ยึดเพลทกับกล้อง
3. อุปกรณ์เสริมสำหรับคนใช้ขา Manfrotto 
4. สติกเกอร์ โลโก้ Peak Design
5. คู่มือ
6. ตัว Capture
7. เพลท


สิ่งสำคัญคือ 2 ชิ้นนี้เลยครับ
ซ้ายคือตัว Capture ทำหน้าที่ 2 อย่าง 

1. Capture กล้อง คือเอาไว้ แขวน แล้ว ล๊อค กล้องไว้อยู่กับตัว Capture 
2. หนีบสายกระเป๋าของเราเอาไว้ 

ส่วนตัวขวาคือ เพลทรุ่นใหม่ของปี 2015 ครับ (คนขายบอกว่าผู้ผลิตทำออกมาใหม่โดย) ซึ่งเพลทตัวนี้ผมขอชมเลยครับ มันดีมาก พื้นผิวสีแดงๆของมันเป็นยาง เวลาเอาไปติดกับกล้องมันจะหนืดๆ ทำให้ยึดกับกล้องได้แน่นหนาดีมากๆเลยครับ


ตัว Capture จะมีหมุดด้านบนอยู่ 2 ตัว ซ้าย ขวา พอเราคลายหมุดออก มันจะมีตัวด้านขวาที่แกะออกมาได้ ทำให้ลักษณะเหมือนมีดพับ เราก็สามารถเอา Capture ไปติดที่กระเป๋าเราได้ และก็หมุนๆหมุดมันให้แน่น เท่านี้เองครับ


ขนาดของ Capture ก็ไม่ใหญ่เท่าใหร่ วัสดุทำจากอลูมิเนียมทั้งชิ้น ทำให้มันไม่หนักมาก แต่ก็ไม่ได้ลองวัดน้ำหนักดู


เวลาใช้ เราก็แค่เลื่อนเพลทเข้าไปตรงช่องตรงกลาง Capture เพื่อล๊อคเพลทให้ติดกับ Capture


ข้อดีคือ มันสามารถเข้าได้ทั้ง 2 ทาง
ปุ่มสีแดงคือ ปุ่มกด คลายล๊อกเวลาจะเอากล้องออกจาก Capture
ส่วนหมุดด้านขวาที่อยู่เหนือคำว่า Capture ขึ้นไปเอาไว้ปรับความแน่นในการล๊อกเพลท ถ้าปรับแน่นไปจะเอากล้องออกยากมากครับ ถ้าปรับหลวมไป กล้องที่แขวยอยู่มันจะเขย่าๆนะ


ด้านล่างมีที่ยึดกับขาตั้งกล้องได้ ซึ่งก็สะดวกดีครับ เดี๋ยวจะมีภาพให้ชมอีกที


ด้านหลังของเพลท เป็นอะไรที่ผมอยากติมากที่สุด คนขายบอกว่ารุ่นนี้ปรับปรุงลบข้อด้วยของรุ่นเก่าๆทั้งหมด แต่ข้อสำคัญดันตกม้าตาย คือ น๊อตที่จะเอามายึดกล้องกับเพลท ดันเป็นแบบต้องใช้ 6 เหลี่ยมมาขันให้แน่น หรือใช้เหรียญมาขันเอา คือแบบนี้ขาตั้งกล้องหลายตัวเลิกใช้ไปนานแล้วนะครับ มันน่าจะมาแบบรุ่นก่อนหน้านี้ที่ น๊อตใช้มือหมุนได้ไปเลย จะได้ไม่ต้องพก 6 เหลี่ยมไปด้วย อันนี้ต้องไปปรับปรุงครับ


ในถุงก็มีอุปกรณ์เสริมสำหรับคนใช้ Manfrotto RC-2 ครับ ซึ่งผมไม่ได้ใช้ก็เอาเข้ากล่องครับ



เรื่องน๊อตที่ติไป ผมเลยต้องแก้ไขโดยการเอาน๊อตขาตั้งกล้อง Fotopro มาใส่แทนครับ ซึ่งเห็นไหมครับ มันจะมี เหล็กที่เราสามารถบิดให้ เพลท กับกล้องแน่นติดกันได้เลย ไม่ต้องมานั่งใช้ เหรียญ หรือ 6 เหลี่ยม


ก็จะกลายเป็นแบบนี้ พร้อมใช้แล้วครับ คราวนี้เราไปลองใช้กันนะครับ




สิ่งที่ดีอย่างแรกเลยคือ เพลท สามารถใช้กับหัวแบบ ARCA ได้เลย คือหัวแบบ วางลงไปที่หัว แล้วหมุนตัวหมุนก็ทำให้เพลทแน่น ซึ่งดีมากเลยครับ วางกล้องไปไม่มีการเขย่า มันเข้าที่กันดีมากๆ


หรือถ้าไม่อยากแกะเพลทมันไปมา ตัว Capture ก็มีรูด้านใต้ เอามาต่อกับน๊อตที่ยึดขาตั้งได้เลยก็สะดวกครับ รุ่นนี้เหมาะกับการใช้กับขาตั้งจริงๆ



ลักษณะเป็นดังรูปเลยครับ เอา Capture ไปยึดกับเพลทเดิมของขาตั้งกล้องได้เลย ดังนั้นขาตั้งก็ใช้อะไรก็ได้เลยครับ ที่มันมีหมุดมายึดกับกล้อง

แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราไม่ได้เอามายึดกับขาตั้งกล้องครับ ผมจะเอามาหนีบกระเป๋าค้าบ
ผมได้ลองกับ กระเป๋าที่ผมมี 2 ใบ 2 แบบ
1. Manfrotto Unica I เป็นแบบสะพายข้าง
2. กระเป๋า Notebook สะพายหลัง

เริ่มที่ใบแรก Manfrotto Unica I เป็นแบบสะพายข้าง



บอกเลยครับ แม่งถ่วงหน้ามาก ขนาดกล้องที่ผมใช้เป็นแค่ Mirrorless Fujifilm X-E2 ติดเลนส์ Kit 18-55 แล้วในกระเป๋าผมมีเลนส์ 2 ตัว 35 มม. และซูม 50-230 มม. น้ำหนักมันทิ่มไปข้างหน้าจนหมด เสียบาลานส์เลยครับ แต่ก็พอใช้งานได้ ซึ่งเราก็ต้องติดมันไว้ไกล้ตัวกระเป๋ามากที่สุด ถ้ามาติดกลางๆสายสะพายมันจะยิ่งถ่วงหน้าไปกันใหญ่ ซึ่งผมว่ามันไม่ Work เลยครับกับกระเป๋าสะพายข้าง ส่วนกล้องก็แกว่งไปแกว่งมา มันไม่มั่นใจเลยครับ โอกาสที่จะหมุนตัวแล้วกล้องไปโดนของรอบตัวมีสูงมากครับ วิธีนี้ผมขอบาย

ใบที่ 2 กระเป๋า Notebook แบบสะพายหลังของยี่ห้อ Targus ภายในผมใส่ Incase สำหรับปกป้องกล้องอยู่ โดยผมถ่วงน้ำหนักไว้ที่เลนส์ 2 ตัวเหมือนเดิม 35 มม. และซูม 50-230 มม.

ความรู้สึกแบบว่า ใช้ได้เลยอะ น้ำหนักมันไม่ถ่วงมาก หยิบจับใกล้มือดี และไม่ต้องกลัวว่าจะหมุนตัว แล้วกล้องจะไปกระแทกอะไรไหมเพราะรัศมีมันไม่ห่างจากตัวมาก ที่สำคัญสุดๆ คือ มันไม่รู้สึกเท่าไหร่ว่ามีอะไรมาถ่วงให้เสียบางลานส์ของกระเป๋า มันรู้สึกปรกติมากๆ ผมลองเอากล้อง เข้าออก หลายๆครั้งรู้สึกมันทำงานได้ดี คิดว่าถึงเวลาใช้จริงน่าจะ OK ครับ และตัว Capture ก็จับกระเป๋าได้ดีมาก ไม่มีการขยับซักนิดเลยครับ

สรุป ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดี
1. ผมว่ามันสะดวก ไม่ต้องเอากล้องไปเก็บกระเป๋า เข้าๆออกๆ อยากถ่ายภาพก็ ปลดล๊อค แล้วถ่ายได้เลย
2. ไม่ต้องคล้องกล้องไว้ที่คอ
3. วัสดุของ Capture มันดีมาก ทนทานอยู่กับเราได้นานแน่ๆ
4. เพลท ต่อกับขาตั้งที่ผมมีได้เลย
5. ตัว Capture ก็ต่อกับขาตั้งกล้องได้เหมือนกัน
6. การใส่เข้าออก การปลดล๊อคของ Capture กับ เพลท มันง่ายและแข็งแรง ทำให้มั่นใจได้ว่ากล้องไม่หลุด แน่นอน แม้ว่าจะวิ่ง ก็ตาม

ข้อเสีย
1. แพง มาก มาก มาก ราคา 3200 บาท ครับ ซึ่งพอดีช่วงที่ผมจะซื้อ เวปขาประจำของผม Lazada จัดโปรโมชั่นครบ 3 ปีพอดี ถ้าสั่งของถึงยอดจะได้โค้ทมาลดอีก เหลือราวๆ 2900 บาท เลยยอมซื้อ (คือดูรีวิวน้ำลายไหลมานาน อยากได้เป็นเจ้าของบ้าง)
2. การเสียบาลานส์ ถ้าใช้กระเป๋าสะพายข้าง ซึ่งผมดันติดใช้กระเป๋าสะพายข้างนี่อะดิ
3. การใส่เข้าออกต้องคอยมอง ใส่ผิด รีบๆ เกิดพลาด หล่นลงพื้นอย่างเดียวเลยครับ อันตรายเหมือนกัน ต้องใช้แบบมีสติพอสมควร

ก็เป็นของที่แล้วแต่จริงๆครับว่าจะหามาใช้ไหม ผมของไปลองกับทริปญี่ปุ่นที่จะถึงนี้ก่อนครับ มือนึงอุ้มลูก อีกมือ ถ่ายรูป 55 ไม่น่าเป็นไปได้

และเหมือนเดิม

1. ข้อมูลทั้งหมดออกมาจากผู้บริโภคคนนึงที่ซื้อสินค้าเอง จ่ายเงินเอง รีวิวเอง บ่นเอง ดังนั้นไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครนะครับ

2. รูปบางส่วนผมเอามาจากเวปอื่น ภาพสินค้าตัวอื่นที่ผมไม่ได้ถ่ายเอง เอามาจากเวป Official ของแต่ละสินค้า ถ้ามีปัญหา แจ้งผมมานะครับ เดี๋ยวผมเอารูปออกให้ครับ

3. ภาพที่ผมถ่ายแบบห่วยๆ เลยสั่นไหวบ้าง ใครอยากเอาภาพไปใช้ เชิญเลยครับถ้าผ่านมาอ่าน

4. การที่ผมให้ข้อมูลต่างๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาด กรุณาแจ้งครับ ผมจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง เพราะผมก็เข้าใจแบบนี้ ธรรมดาของผู้บริโภคคนนึง ที่ไม่ได้เข้าใจสุดๆเหมือนเจ้าของผลิตภัณฑ์หรอก

5. ถ้ามีการพาดพิงถึงใครและไม่พอใจ แจ้งได้นะครับ ยินดีเอาข้อมูลออกครับ เพราะ Blog นี้ผมพิมพ์ไว้อ่านเองอยู่แล้ว


7 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ ใช้แล้วเป็นบ้างครับ ผมกะว่าจะซื้ออยู่แต่หารีวิวตรงไปตรงมายากมาก มาเจอของพี่นี่แหล่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าใช้กระเป๋าแบบ เป้สะพายหลัง ผมขอแนะนำว่าต้องมีเลยครับ สะดวกสบายมากเวลากดกล้องเข้าออก เวลาผมไปต่างประเทศ ผมพกไปทุกครั้งครับ แต่ถ้าเอาไปหนีบกับกระเป๋าสะพายข้าง ไม่แนะนำเลยครับ ไม่สะดวก

      ลบ
    2. ขอบคุณมากครับ แล้วเคยใช้คาดกับเข็มขัดไหมครับ

      ลบ
  2. เคยเอาไปใช้เที่ยว แสกนดิเนเวีย 11 วัน ออกไปเดินเที่ยวทั้งวันทุกวันจนติดเลยไม่เมื่อยคอ ไม่รำคาญ ยืมน้องมาใช้ กำลังจะซื้อไว้ใช้เองแล้ว ใช้แบบหนีบไว้ที่เข็มขัดค่ะ

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ