น้ำยาขจัดคราบกระจกในห้องน้ำ HG Bathroom Professional Limescale Remover

12 กรกฎาคม 2559

คำนำ

บทความนี้จริงๆผมดองไว้นานมากครับ เพิ่งขุดรูปสินค้าเอาออกมารีวิว

เนื่องจากผมได้ย้ายจากบ้านพ่อแม่ มาอยู่คอนโดใจกลางเมือง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงชีวิตนิดหน่อยครับ สิ่งหนึ่งคือ ต้องอาบน้ำในตู้กระจก ไม่ใช่เพราะหรูหราหรืออะไร แต่เพราะห้องน้ำคอนโดมันเล็กและแคบๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆ จึงต้องออกแบบมาแบ่งสัดส่วนเปียกกับแห้งให้ออกจากกัน วิธีการของคอนโดที่ผมอยู่คือ กั้นตู้กระจกขึ้นมาครับ

การอาบน้ำในตู้กระจกก็ดีนะครับ น้ำไม่กระเซ็นไปหาส่วนแห้ง พอเดินออกมาส่วนแห้งแล้วรู้สึกสบายเท้ามากๆ ติดใจกันเลยทีเดียว

แต่สิ่งที่ตามมาคือ คราบของสบู่ หรือ น้ำที่ค้างอยู่บนกระจก พอมันแห้ง ไม่อยากจะเซด มันมีคราบน้ำหินปูนแห้งกรังอยู่บนกระจก ชนิดที่ติดเหนียวแน่น ทนนาน ถูด้วยน้ำเปล่า ยังไงก็ไม่ออกครับ

เลยเข้าเว็ปอ่านหาวิธี แบบบ้านๆที่ไหนก็ทำได้คือ เอาน้ำส้มสายชูผสมน้ำแล้วถูเอา ผมก็อ่านรีวิววิธีนี้ แต่ละคนทำเสร็จ มือแหกกันเลยทีเดียว และเผอิญได้ไปอ่าน Blogger ท่านนึงเอ่ยถึงน้ำยา HG

หน้าตามันเป็นยังไงเหรอครับ

ขวดมันเป็นพลาสติกขาวๆ รัดด้วยฉลากสีฟ้า ยี่ห้อ HG ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าทั้งดุ้นมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ครับ โดยบริษัทที่นำเข้ามาแปะสติกเกอร์ทับลงไปถึงส่วนประกอบสารเคมี และ วิธีใช้ ครับ

ซึ่งยี่ห้อ HG นี่มาเป็นซีรีย์เลยครับ พวกน้ำยาต่างๆเพื่อขจัดคราบต่างภายในบ้าน ทั้งห้องน้ำ ครัว พื้น โดยจะพอเห็นได้ที่ผมเคยเห็นคือ HomePro Lotus เห็นอยู่ 2 ที่ โดยที่ทั้ง 2 ที่เหมือนๆกันคือ คนเดินผ่าน ไม่มีใครสนใจ ไม่มีการโปรโมท และราคาโครตแพงครับ คือถ้าไม่ได้ไปอ่านรีวิวของ Blogger ท่านนั้น ผมก็คงไม่เคยดูเลยว่าคือน้ำยาอะไร แถมแพงอีกต่างหาก ขวดนิดเดียว หลายร้อย

ข้างฉลากเขียนว่า 

สารสำคัญคือ : ETHOXYLATED ALCOHOL 4% w/w 

ประโยชน์ : ผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดห้องน้ำสูตรเข้มข้น สำหรับขจัดคราบหินปูน คราบสนิม คราบเหลืองปัสสาวะ ปลอดภัยสำหรับสุขภัณฑ์ และ อุปกรณ์ในห้องน้ำ เช่น โครเมี่ยม สแตนเลส เซรามิค กระเบื้อง กระจก แก้ว คริสตัล และ พลาสติก

วิธีใช้ :  (แบบย่อ ขี้เกียจพิมพ์ทั้งหมด 55)

1. สำหรับทำความสะอาดทั่วไป ผสมกับน้ำ ในอัตรา 1 : 10 แล้วใช้น้ำที่ผสม เช็ดบริเวณผิววัสดุด้วยฟองน้ำ ทิ้งไว้ราวๆ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

2. ฝักบัวที่มีคราบฝังแน่นมาก จุ่มฝักบัวลงในผลิตภัณฑ์ HG ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ใช้แปรงขัดแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

3. แก้วที่หมดคราบวาว ผสม HG กับน้ำ ในอัตรา 1 : 10 จุ่มแก้วทิ้งไว้นาน 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

คำเตือน ห้ามใช้กับ หินอ่อน หินขัด หรือ วัสดุต่างๆที่ไวต่อกรด

เท่าที่อ่านประโยชน์ โครตครอบจักรวาลห้องน้ำแล้วครับ ปัญหาต่างๆที่พบเจอคราบในห้องน้ำขจัดมลายด้วยผลิตภัณฑ์เดียว คือไม่ทำร้ายพื้นผิวพวกสิ่งของต่างๆในห้องน้ำ แค่นี้ก็สบายแล้วครับ เพราะพวกน้ำยาขจัดคราบของพี่ไทยส่วนมากจะเน้นขจัดคราบฝังลึก พอใช้ไปซักพัก สีโครเมี่ยมลอก กลายเป็นสีพวกก๊อกน้ำกระดำกระด่างเลย

ส่วนวิธีการใช้ สำหรับผมคือข้อ 1 ครับ ใช้ขจัดคราบทั่วไปแบบ ผสมกับน้ำในอัตรา 1 : 10 เพราะลองคิดดูถึงข้อ 2 เล่นให้แช่วัสดุที่จะทำความสะอาดในน้ำยาแสนแพงหลายร้อยโดยตรง ใครจะไปทำได้ครับ ส่วนข้อ 3 ผมไม่น่าจะมีวัสดุแก้วอะไรในห้องน้ำ

สำหรับการใช้แบบบ้านๆของผม

รูปนี้คือกระจกในห้องน้ำคอนโดผม ซึ่งอยู่มาราวๆ 6 เดือน อยู่แปปเดียว คราบหินปูนเพียบ ยังไม่รวมกับคราบหินปูนที่เกาะอยู่ตาม ก๊อกน้ำ ฝักบัว อ่างล้างหน้าอีก แถมห้องน้ำผมมีพื้นผิวครบทุกรูปแบบอีกต่างหาก

1. กระจกกั้นห้องน้ำ
2. ก๊อกฝักบัวเคลือบโครเมี่ยม
3. ฝักบัวพลาสติกเคลือบโครเมี่ยม
4. พื้นกระเบื้อง
5. ชักโครกเซรามิค
6. กระจกเงา
7. อ่างล้างหน้าพลาสติกหล่อขึ้นรูป

ขืนต้องมาระวังน้ำยาจะไปโดนชิ้นนั้น ชิ้นนี้ ปวดหัวตายครับ ผสมน้ำยาทีเดียว ใช้มันทุกพื้นผิวในห้องน้ำเลย

สิ่งที่ต้องเตรียมคือ 

1. ถุงมือยาง
2. แว่นตากันสารเคมี ทำไมต้องใช้แว่นตาเหรอครับ เวลาเราเช็ดกระจก มันจะต้องเอื้อมมือไปหาที่สูง น้ำยาอาจกระเด็นเข้าตาได้นะครับ
3. หน้ากาก เพราะกลิ่นมันแรงมากๆครับ
4. ฟองน้ำ พวกที่เป็น เขียวๆสากๆ สก๊อตไบร์ท ล้างจานพวกนั้นแหละครับ
5. ขวดฟ็อกกี้ สำหรับฉีดน้ำยาที่ผสมแล้ว

รูปนี้คือขวด ฟ็อกกี้ ที่ผมเตรียมมา เพื่อความง่ายในการทำความสะอาด อยากทำความสะอาดตรงไหน ก็ฉีดมันตรงนั้นแหละครับ น้ำยาไม่เปลือง และไม่กระจายด้วย

วิธีการคือผมก็เล่นแบบลูกทุ่งเลยครับ ไม่มีการตวงอัตราส่วนใดๆทั้งสิ้น ก็นะ ผลิตภัณฑ์ตั้งแพง น่าจะมีที่ตวงน้ำยามาให้ด้วย เลยต้องใช้เทน้ำยาเอา แล้วเทน้ำตาม อัตราราวๆ 1 : 10 น้ำที่ได้จะสีประมาณนี้ครับ มันออกเหลืองๆนิดๆ แต่กลิ่นนี่ มาทันที

กลิ่นมันออกเหมือนน้ำยาล้างห้องน้ำทั่วๆไปเลย เหม็นแสบจมูกดีครับ

พอได้ที่ก็ฉีดๆ พ่นๆ เอาสก๊อตไบร์ท ถูไป เช็ดไป คราบหินปูนมันจะติดกับ สก๊อตไบร์ท ออกมาเลย ยิ่งถูยิ่งออก ยิ่งติดที่สก๊อตไบร์ท ดังนั้นต้องถูไป ซักสก๊อตไบร์ทในน้ำไปครับ

ทิ้งไว้ซัก 2-3 นาที แล้วฉีดน้ำล้าง อเมซิ่งมากครับ กระจกใสทันที ถึงขั้นงง เลยไปลองกับวัสดุอื่นๆบ้าง เช่น ก๊อกน้ำ พอฉีดไปโดนคราบ มันจะขึ้นเป็นฟองๆฟอดๆ ทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วใช้สก๊อตไบร์ทถูๆ แปปเดียวก็เงางามเลยครับ ไม่น่าเชื่อจริงๆ

ผลที่ได้คือ

ถามว่าออกแรกมากไหม ก็ได้เหงื่อเลย แต่ไม่ได้ออกแรงมากมายอะไร พอผมมาทำครั้งที่ 2 ผมเลยไปซื้อตัวช่วยมา คือที่เช็ดกระจกของเด็กที่เช็ดกระจกตามสี่แยกครับ ที่ด้านนึงเป็นฟองน้ำ อีกด้านเป็นยางๆ ยิ่งทำความสะอาดง่ายมากๆครับ

ข้อดี
1. น้ำยาออกแบบมาตรงจุดมากๆครับ กระจกใสวิ้ง
2. ใช้ได้กับทุกพื้นผิวที่ควรจะเจอในห้องน้ำ
3. ไม่ทำลายพื้นผิววัสดุต่างๆที่ควรจะพบเจอ

ข้อเสีย
1. แพงมาก เมื่อเทียบกับน้ำยาของไทย ถ้าจำไม่ผิด เกือบ 200 บาท
2. หายาก มีแค่ใน Homepro กับ โลตัสศรีนครินทร์ (หาตั้งนาน)
3. กลิ่นเหม็น
4. ทำลายพื้นผิวที่เป็นหินอ่อน หินขัด
5. ใช้ยาก ต้องมานั่งผสมน้ำแล้วต้องมาหาที่ฉีดอีก

สรุป 

สำหรับผมมันเป็นน้ำยาที่ดีงามมาก ควรหามาใช้กันนะครับ อย่าไปนั่งใช้วิธีบ้านๆ น้ำส้มสายชูให้เปลืองแรงขัด อย่าไปชีวจิตรมากครับ มีเคมีอะไรที่ออกแบบมาให้ใช้ เราก็ใช้กันไป สำคัญคืออ่านฉลากวิธีการใช้ให้ถูกต้อง และทำตามอย่างเคร่งครัด

แต่อย่าใช้น้ำยาล้างห้องน้ำของไทยกับทุกพื้นผิวนะครับ ลองอ่านๆฉลากดูนะครับ บางยี่ห้อโครเมี่ยมโดนน้ำยา แล้วลอกเลยนะครับ ยอมแพงแต่ได้ความสะดวกสบายครับ

สำหรับวิธีผสม ผมว่า HG มันวุ่นวายไปนิดนึง ทำให้ต้องหาขวด ฟ็อกกี้ มานั่งตวงน้ำยาและผสมอีก ที่ตวงก็ไม่มีมาให้ เลยไม่รู้จะ 1 ต่อ 10 ยังไง เลยต้องกะๆเอา

แต่ผมได้ไปเดิน Homepro มาอีกครั้ง HG เค้ามีรุ่นที่ทำแบบเป็น ฟ็อกกี้ มาจากโรงงานเลยนะครับ แบบพร้อมใช้ แต่จำได้ราคาแรงใกล้ๆกัน กลายเป็นขวดแบบที่ผมซื้อแพงกว่านิดหน่อย แต่เอามาผสมเองจะใช้ได้หลายครั้งกว่า

และมีคำเตือนนะครับ

คำเตือน ห้ามใช้กับ หินอ่อน หินขัด หรือ วัสดุต่างๆที่ไวต่อกรด

พวกหินอ่อนนี่ เซ้นซิทีฟ กับพวกน้ำยาเช็ดทำความสะอาดห้องน้ำมากๆครับ บ้านแม่ผม ในห้องน้ำปูขอบๆห้องน้ำด้วย หินอ่อน อยู่ไปได้ 1 ปี ความเงาของหินกลายเป็นด้านเลยครับ หินเสียหมดเลย

ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ ภาพน้อยไปนิด แต่อยากเน้นกระจกครับ

เหมือนเดิม

1. ข้อมูลทั้งหมดออกมาจากผู้บริโภคคนนึงที่ซื้อสินค้าเอง จ่ายเงินเอง รีวิวเอง บ่นเอง ดังนั้นไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครนะครับ

2. ภาพที่ผมถ่ายแบบห่วยๆ ใครอยากเอาภาพไปใช้ เชิญเลยครับถ้าผ่านมาอ่าน

3. การที่ผมให้ข้อมูลต่างๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาด กรุณาแจ้งครับ ผมจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง เพราะผมก็เข้าใจแบบนี้ ธรรมดาของผู้บริโภคคนนึง ที่ไม่ได้เข้าใจสุดๆเหมือนเจ้าของผลิตภัณฑ์

4. ถ้ามีการพาดพิงถึงใครและไม่พอใจ แจ้งได้นะครับ ยินดีเอาข้อมูลออกครับ เพราะ Blog นี้ผมพิมพ์ไว้อ่านเองอยู่แล้ว