7 สิงหาคม 2558

รีวิว โตโยต้า รีโว Prerunner 2X4 2.4E AT ด้วยตัวผมเอง (Toyota Revo) 2015

คำนำ

( ตราสามห่วง )

เนื่องจากงานของบริษัทผมนั้นต้องไปติดต่อกับลูกค้าต่างจังหวัดเกือบตลอด ทำให้จำเป็นต้องใช้รถที่สมบุกสมบัน ลุยไปได้ทกที่ กำลังต้องดี แซงสิบล้อได้สบายหายห่วงอะไรประมาณนี้

ทำให้เมื่อ 7-8 ปีที่แล้วผมได้ถอยรถมา 1 คัน คือโตโยต้า วีโก้รุ่นแรก แบบ 4 ประตู เกียร์ออโต้ (ที่ต้องใช้เกียร์ออโต้เพราะ เวลากลับมาขับในกรุงเทพจะได้ไม่ลำบากเมื่อยขาซ้ายจนเกินไป ....... บอกไปเหอะว่าขับกระปุกไม่เป็น จบข่าว) แบบไม่ยกสูง เพราะคิดว่ามันน่าจะเกาะถนนมากกว่า เพราะศูนย์ถ่วงมันต่ำ และกระบะที่ยกสูง (แบบ โตโยต้า วีโก้ Prerunner) มันแพงเกินไป ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น (แต่ดันออกเครื่อง 3000 ซีซี.) จำราคาคร่าวๆที่ถอยออกมากได้เลยครับว่า ราวๆ 730,000 บาท รวมทำหลังคาแครี่บอย อีก 20,000 กว่าบาท ตกสิริรวมราวๆ 750,000 บาท (วันที่ขายไป ขายไปได้ราวๆ 300,000 บาท รถกระบะนี่ ราคาไม่ค่อยตกจริงๆ)

เวลาล่วงเลยมาจนวีโก้คันนั้นขับไปกว่า 300000 กิโลแล้ว เลยมีความคิดว่า ขายไปเหอะแล้วซื้อคันใหม่ดีกว่า แต่ก็ยอมรับครับว่าประทับใจวีโก้ตรงที่ แรง และ แรง และ แรงมาก ก็แน่ดิ ดันใช้ 4 ประตู เครื่อง 3000 ซีซี. โดนค่าภาษีต่อปีไป ปีละ 13000 กว่าๆ แต่สิ่งที่ไม่ประทับใจเลยคือ ช่วงล่าง และ เบรก ของวีโก้รุ่นแรก จัดได้ว่าแย่มากครับ แต่ก็นะ ขับมาหลายปี งอแงน้อยมาก ถ้าเทียบกับ ฮอนด้า แอคคอร์ดปี 2008 ที่ผมใช้ และ มาสด้า CX-5 ที่ผมเคยรีวิวแกมบ่นไปก่อนหน้านี้ (ยอมรับเลย มาสด้า นี่จัดได้ว่าจุกจิกมาก)

โตโยต้า แบรนด์นี้ผมยอมเค้าเลยเรื่องงานประกอบ มาตรฐานเค้าใช้ได้จริง ติดที่เวลาเข้าศูนย์บริการต่อครั้งผมถือว่าแพงกว่าชาวบ้าน (เทียบกับ ฮอนด้า และ มาสด้า) แค่รถกระบะ โดนค่าแรงราวๆเกือบ 1500 บาทตลอด (เฉพาะค่าแรงนะครับ ยังไม่รวมค่าของอย่างอื่นๆ) เวลาเข้าศูนย์บริการ

แต่สุดท้าย ในปี 2015 ผมก็เลือกโตโยต้าอีกจนได้ เพราะ อะไรนะเหรอครับ

หลังจากที่ผมเริ่มมีความคิดจะซื้อกระบะคันใหม่ ผมก็เลยไปแอบๆดูๆยี่ห้ออื่นบ้าง โดยสเปคที่ผมต้องการคือ 4 ประตู เกียร์ออโต้เหมือนเดิม

ไอ้ที่แปลกคือ รถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ แบบที่ไม่ยกสูง ไม่มีเลยซักยี่ห้อ เหมือนเค้าวิเคราะห์ตลาดมาแล้วว่า รถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ แบบที่ไม่ยกสูง มันขายยากมั้งครับ ตอนนี้เลยมีแต่ แบบรถยกสูงเหมือน SUV กันหมดเลย แถมราคานี่ เหมือนนัดกันมา ราวๆ 900,000 บาททั้งสิ้น (นี่เรามาถึงจุดที่รถกระบะคันละ 1 ล้านบาทกันแล้วนะครับ)

ผมไปดูอะไรมาบ้างนะเหรอครับ

1. มาสด้า BT-50 Pro Eclipse (ราคา 940,000 บาท)

http://www.mazda.co.th/cars/mazda-bt-50-pro-eclipse/

คันแรก เลยที่ไปดูคือ มาสด้า ครับ เป็นรุ่น BT-50 Pro Eclipse (มาสด้า บีที 50 อีคลิป) 4 ประตู เป็นรุ่นทิ้งทวนแบบ มีชุดแต่งเรียบร้อย เทห์พร้อมขับเลย ไม่ตองไปทำอะไรต่อแล้ว (ขาดแค่ไม่มีจอ กล้องมองหลังติดรถ ต้องไปแต่งเอง) แต่เผอิญช่วงที่ผมไปดู ได้ข่าวแว่วๆมาว่า ปลายปีพี่แกจะไมเนอร์เชนจ์ โดยฟอร์ดจะไมเนอร์เชนจ์ก่อน แล้ว มาสด้า จะตามมา ทำให้เซลล์ที่ขาย บีที 50 อีคลิป ทิ้งทวนกันเกลื่อนเลยคับ ส่วนลดที่ได้ ทำให้ราคาของรถมาสด้าลดไปเกือบ 80,000 บาท (เกือบจองแล้ว) แต่บอกตรงนี้เลยครับ มาสด้านี่จัดได้ว่าจุกจิกและขอบ่นเลยครับ เข้าศูนย์บริการนี่ คิวยาวมากเป็นหางว่าว พนักงานรับงานซ่อมก็มีกันแค่ 2-3 คน ทำให้งานมันชุกมาก และ ศูนย์ซ่อมสี แบบซ่อมห้าง ต้องรอถึง 2 เดือนครับ ถึงจะได้คิวซ่อม ยาวนานเกินไปจริงๆครับ ซ่อมสีผมต้องอาศัยซ่อมอู่นอกที่รับประกันภัยรถยนต์บริษัทเดียวกัน จะได้เร็ว เศร้ามาก อยากซ่อมห้างนะ แต่รอคิวไม่ไหวจริงๆ ส่วนการประกอบ อยู่ดีๆ CX-5 ของที่บ้านก็มีเสียงก็อกๆแก๊กๆจากช่วงล่าง ต้องไปศูนย์เพื่อไขให้กลับมาแน่นเหมือนเดิม และไฟเอนจิ้นโชว์ 1 ครั้งโดยที่รถอยู่ต่างจังหวัด เข้าศูนย์บริการบอกสายไฟหลวม ต่อกลับใหม่ก็หาย เพิ่งเคยเจอเลยครับ รถใช้มาไม่กี่เดือน ต้องเข้าไปแก้ช่วงล่าง และสายไฟหลวม แต่โดยรวมก็ถือว่าบริการดีครับ (แต่บอกตง สู้ฮอนด้าไม่ได้แน่นอน อันนั้นแทบจะปูพรมแดง เดินเข้าศูนย์บริการ)

จริงๆรถมันสวยมากเลยนะครับ ผมชอบสุดแล้ว มันดูเป็นกระบะสมัยใหม่ดีครับ แต่ขอผ่านเพราะ มันกำลังจะไมเนอร์เชนจ์ เนี่ยแหละครับ

2. นิสสัน นาวาร่า DC CALIBRE V 7 AT (ราคา 897,000 บาท)

http://www.nissan.co.th/Vehicles/NP300-Navara-Double-Cab.aspx

สำหรับนิสสันนาวาร่า ผมไม่ได้ไปดูตัวเป็นๆครับ แต่ได้อ่านๆเอาตามอินเตอร์เน็ต ข้อดีมีมากจริงๆครับ
แต่ที่ไม่ได้เลือกเพราะ รถคันนี้ผมไม่ได้ขับคนเดียว ผู้ร่วมขับด้วยบอกว่า เค้าไม่ชอบหน้าตามันเท่าไหร่ เลยขอผ่าน (แต่จริงๆ อีกอย่างที่ผมไม่เลือก นิสสัน เพราะ ผมโทรไปถามเซลล์ที่ขาย ไม่มีรายการอะไรเลยครับ ในช่วงที่กำลังจะซื้อ ทำให้ราคามันเกือบๆ รีโว ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาใหม่เลยครับ ในช่วงที่จะจองรถ) แต่สิ่งที่นิสสันมีมากกว่า โตโยต้า รีโว คือ ในราคาที่เท่าๆกัน นิสสัน มีจอทัชสกรีน มาเลยจากโรงงานครับ

3. โตโยต้า รีโว Prerunner 2X4 2.4E AT (ราคา 895,000 บาท)

http://www.toyota.co.th/index.php/app/product/model/hilux_revo_double_cab

( บอกตง มองกี่ทีก็เหมือน วีโก้ )

ผมบอกเลย ถ้าผมสามารถตัดสินใจคนเดียวแบบเด็ดขาดได้ ผมอาจไม่เลือกโตโยต้า รีโว ทำไมนะเหรอครับ ลองมองรูปที่ผมถ่ายนะครับ แล้ว ลองกลับไปดูครับว่ามันต่างจาก โตโยต้า วีโก้ตรงไหนบ้างครับ
คือผมลองมองๆหลายๆครั้ง ผมยังนึกว่ามันคือ วีโก้ เอามาออกแบบใหม่เลยครับ คือมันให้อารมณ์เหมือนๆเดิม ไม่ค่อยแตกต่างจาก วีโก้ เท่าไหร่ โฆษณาก็เล่นซะเวอร์ ว่าเป็นรถมาจากนอกโลก 555 อะไรจะขนาดนั้น แต่ก็นะครับ จากการที่ผมได้รับหน้าที่เป็นจัดซื้อรถยนต์ทั้งในครอบครัว และ ใช้ในบริษัท สิ่งนึงที่ต้องคำนึงเลยคือ เบื้องหลังการขายครับ (ยกเว้น ฮอนด้า กับ มาสด้า อารมณ์ล้วนๆ)
เบื้องหลังการขายของผม ไม่ได้หมายถึงศูนย์บริการ หรือ ปริมาณอะไหล่ ทั้งแท้และเทียบเท่านั้นครับ มันยังรวมถึงหลายปัจจัย ทั้งปริมาณศูนย์บริการ อู่นอก อะไหล่แท้ อะไหล่เทียบ อะไหล่มือสอง รวมไปถึงราคาขายต่อด้วยนะครับ หลายหลากมากให้ต้องคิดลึก

ทุกคำตอบมารวมกัน ดันเป็น โตโยต้า ซะงั้นครับ
ทำไมถึงเลือกโตโยต้า เหรอครับ เพราะเรื่องเบื้องหลังการขาย เลยครับ ยอมรับจริงๆครับ วีโก้เป็นรถที่ผมใช้แล้วมีความสุขมาก ใช้มาหลายปี ซ่อมแบบที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ไป 2 ครั้งเองครับ (จำไม่ได้แล้วว่าชิ้นไหน) แถมเอาไปทำอู่นอก ราคาอะไหล่ก็ไม่แพง มีอะไหล่เซียงกงกองเพียบ รถเคยไปมีปัญหาอยู่ต่างจังหวัดก็มีศูนย์บริการยุบยับเต็มไปหมด แถมตอนขายต่อก็ถือว่าไม่ตกรุนแรงมากเกินไป พอรับได้

หวยเลยมาตกที่ โตโยต้า รีโว ครับ

เข้ารีวิวเลยครับ น้ำเยอะแล้ว

ด้านหน้า


มองแล้วมองอีก ก็วีโก้ชัดๆ ความรู้สึกมันแบบ บวมๆ กลมๆ ป่องๆ เหมือนเดิม แต่มีลูกเล่นที่ไฟหน้า กระจังหน้ามันดูดุดันขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยอมรับว่าการออกแบบ มันดูลงตัว ไม่ขาด ไม่เกิน สวยงามพอสมควรครับ


กระจังหน้ามีเส้นมาตัดกับโลโก้ ทำให้โลโก้ดูเด่นมากครับ ออกแนวกันดั้มยังไงชอบกล ส่วนด้านล่างที่อยู่เหนือใต้ทะเบียนรถมันจะเป็นช่องให้อากาศเข้าสีดำครับ โดยที่รุ่นนี้ (Prerunner 2X4 2.4E AT) มีไฟตัดหมอกมาจากโรงงานแล้วครับ


( ตานายช่างดุนัก )
ไฟหน้านี่ผมยอมรับเลยครับว่ารุ่นนี้ดูดุมากจริงๆ เหมือนโดนมองหน้าหาเรื่องตลอดเวลา 55 รุ่นนี้ไฟยังเป็นแบบปรกติ มีไฟหรี่ อยู่ภายในพร้อมไฟเลี้ยว และไฟหน้าขนาดใหญ่

ด้านข้าง

(ความรู้สึกไม่ค่อยต่างกับวีโก้)

ด้านข้างผมมองครั้งแรก ก็รู้สึกไม่ค่อยเซอร์ไพรส์ หรือแตกต่างอะไรเท่าไหร่จากวีโก้ คือมันไม่มีเส้นสายอะไรเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าเหมือน รีโว จะยาวกว่า วีโก้ เล็กน้อย (มั้ง) ซุ้มล้อจะโป่งๆออกมาเพื่อให้มันพอดีกับขนาดของยางที่ยื่นเกินตัวรถออกมาเล็กน้อย มีบันไดเพื่อให่ปีนขึ้นไปนั่งได้ตามแบบฉบับของกระบะยกสูงทั่วๆไป อ่อ มีสติกเกอร์แจ้งด้านหลังว่า คันนี้ Prerunner นะจ๊ะ

ด้านหลัง


( ด้านหลังมองลงไป ยิ่งเหมือนวีโก้มากไปกว่าเดิมอีก )

ด้านหลังไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ มีไฟเบรกตรงกลางเพื่อให้คนที่ขับตามเห็นได้ชัดเจน มือจับเพื่อเปิดกระบะท้ายสวยงามลงตัวดีกับเส้นสายที่พาดมา มีชื่อยี่ห้อกับรุ่นเป็นตัวนูนแปะมาตามปรกติ
ไฟท้าย ขนาดใหญ่ เหลื่อมไปจะถึงด้านข้าง มองได้ชัดเจน โดยโตโยต้าคงจะทำแบบนี้กันทุกรุ่นครับ คือ เวลาเราเข้าเกียร์ถอยหลัง ไฟแสดงสถานะถอยหลังสีขาวจะติดแค่ข้างซ้าย ด้านเดียว โดยทางด้านขวาจะใส่ไฟตัดหมอกหลังมาแทนไฟถอยหลัง (อยากถามความเห็นว่ามันดีไหม) แต่ส่วนตัว ผมไม่ค่อยชอบแบบนี้เลยครับ ผมอยากให้มีไฟถอยหลังสีขาว 2 ข้างเหมือนเดิมมากกว่า ไฟตัดหมอกถามจริงเหอะครับ ได้ใช้บ่อยขนาดไหนกัน

กันชนท้าย เป็นอะไรที่ผมชอบมากมาตั้งแต่วีโก้แล้วครับ กันชนท้ายของโรงงาน (แท้ที่มากับศูนย์นะครับ) มีความแข็งแรงมากๆครับ ผมเคยโดนชนท้าย กันชนแค่ดุ้งนิดหน่อย แต่อีกฝ่ายที่ชนนี่ ยับเยินเลยครับ แข็งแรงทนทานมาก เคาะดูรู้เลยครับ เนื้อกันชนมันจะแน่นๆ ไม่ก๊องแก๊ง แถมคราวนี้ออกแบบมาได้สวยงาม
อ่อ รุ่นนี้ไม่มีแถมเซ็นเซอร์ถอยหลังนะครับ ไปกะกันเอาเอง หรือไม่ก็ไปเปลี่ยนจอ ติดกล้องมองหลังเอาคับ

กระจกมองข้าง

( กระจกมองข้างแบบไฟฟ้า )

กระจกมองข้างของรีโว ผมชอบมากครับ สวยงามเป็นโครเมียมและมีไฟเลี้ยวอยู่ด้วย โดยรุ่น Prerunner 2X4 2.4E AT ก็เป็นแบบไฟฟ้า สามารถกดปรับและพับได้จากภายในครับ แต่ที่ผมบอกว่าชอบมากไม่ใช่เพราะมันใช้ไฟฟ้าครับ แต่เพราะขนาดของมันใหญ่มาก วิชั่นในการมองรถที่ตามมาด้านหลังดีมากๆเลยครับ
แต่ว่ามีคำเตือนจากพนักงานขายคือ กระจกมองข้างรุ่นนี้ ห้าม ห้าม และ ห้าม พับด้วยมือเด็ดขาดครับ เฟืองข้างในอาจจะหักได้ (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหักทันที หรือ อาจเสี่อมเร็วนะครับ ผมไม่อยากลอง) ดังนั้น ถ้าไปล้างรถต้องบอกคนล้างว่า ถ้าจะพับ ต้องกดพับจากสวิสต์ด้านในเท่านั้น และถ้าคุณโดนมอเตอร์ไซค์ชนแล้วหนี ก็ตัวใครตัวมันครับ

ยางและแม็กซ์รถ

(ได้ Bridgestone เลยนะเธอ)

แม็กซ์ ที่ได้มากดูตันๆดีครับ เหมาะแก่การลุยๆ เป็นใบ 6 ก้าน ยางติดรถที่ได้มาเป็น BRIDGESTONE DUELER A/T 693III รุ่นนี้ไปหาราคามา เส้นละ 5800 บาท เลยครับ เปลี่ยนครั้งหน้าเตรียมทำใจ
(ยางพวก SUV ร้านยางที่ผมไปเปลี่ยนประจำแจ้งว่า กรุณาใช้ซัก 6-70000 กิโลเมตรก่อน ค่อยมาเปลี่ยนนะครับ ไม่ต้อง 50000 กิโล หรือ 2 ปีก็ได้ เพราะยางพวกนี้จะเคลือ 6 ชั้นอะไรประมาณนั้น ทำให้ทนทานกว่ายางรถเก๋งทั่วไป ใช้ให้คุ้มโดยสังเกตุดูที่เดือยเตือนสถานะยางที่หน้ายางนะครับ)

ห้องเครื่อง





สิ่งแรกเลยคือ ฝากระโปรงหน้า แม่มหนักมากครับ ยกแทบไม่ขึ้น (มีบุกันความร้อนที่ใต้ฝากระโปรงหน้าด้วย ดีงามมาก) แถมไม่มีโช้คมาช่วยออกแรงด้วย ดังนั้นเวลาเปิด ปิด ต้องระวังกันหน่อยนะครับ โดยมีแท่งเหล็กเอามายันฝากระโปรงแบบเดิมๆเลยจ้า จริงๆน่าจะเป็นแบบโช้คไฮโดรลิคได้แล้วมั้งครับ

การจัดวางห้องเครื่องดูสบายตานะครับ มันออกแนวโปร่งๆ อาจเป็นเพราะพื้นที่เยอะ การเรียงช่องที่ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายของเหลวทำได้ดีนะครับ มันอยู้ใกล้ๆมือไปหมด เครื่องยนต์ 2GD-FTV 2400 ซีซี. 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler กำลัง 150 แรงม้า นอนสบายๆเลยมีฝาพลาสสติกมาครอบเครื่องไว้ดูเรียบร้อยดีครับ เรื่องกำลังเครื่องยนต์จะไปในส่วนของการขับขี่ครับ

ภายในบ้างครับ

ประตู และ การขึ้นลง

( เปิดประตูได้กว้างมาก ทำให้ขึ้นลงสะดวก )

พอเปิดประตูออกมา เลยรู้ว่า การขึ้นลงทำได้สะดวกมากครับ ประตูเปิดออกมาได้กว้างจริงๆ โดยที่การตบแต่งภายในของรุ่นนี้ (ผมเลือกรถสีเงิน) ภายในเลยเป็น สีดำตัดกับสีน้ำตาล




แผงประตูเป็นพลาสติกขึ้นรูป เกรดของพลาสติก ถือว่าค่อนข้างไปทางเกรดดีนะครับ เนื้อแน่นๆ เคาะแล้วไม่โปร่งเกินไป โดยทำผิวของพลาสติกเลียนแบบหนัง (แต่ก็นะ ยังไงก็พลาสติก) ยังดีมีเส้นสายมาตัดกันสวยงามกว่ารุ่นก่อนๆ ตรงที่วางมือเป็นผ้ากำมะหยี่ สีน้ำตาล มาเบรกสีดำของบานประตู อ่อช่องลำโพงก็ดูสวยงามขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ช่องเก็บของขนาดใหญ่ มีที่ให้วางขวดน้ำ 7 บาท ได้อีก 1 ขวด มีพลาสติกสีแดง น่าจะสะท้อนแสงได้ เอาไว้ให้รถด้านหลังรู้ว่าเราเปิดประตูอยู่ในที่มืด


แผงสวิสต์ข้างประตู ก็พยายามทำให้ไฮโซอะนะ ผมจะไล่อธิบายเป็นแถวๆนะครับ

แถวที่ 1 มีสวิสต์แบบหมุน เพื่อปรับกระจกข้าง โดยเราต้องหมุนว่าจะเอาข้างซ้าย คือ L หรือ จะปรับด้านขวา คือ R แล้วก็โยกสวิสต์กลมๆที่เราเห็นคล้ายๆจอยสติก ขึ้นลง ซ้ายขวา เพื่อปรับกระจกมองข้าง สวิสต์ข้างๆกันคือ พับกระจกข้าง
แถวที่ 2 ปุ่มกดล๊อค และ ปลดล๊อคประตูรถทั้ง 4 บาน และ ปุ่ม ห้ามเปิดปิดกระจก
แถวที่ 3 และ 4 คือเปิดปิดกระจกแต่ละบาน โดยจะมีบานพิเศษคือ ฝั่งคนขับจะเป็นแบบออโต้ ทั้ง กดขึ้น และ กดลง (คือกดทีเดียว มันจะ ขึ้น ลง เองจนสุดให้ครับ )



( สวิสต์ ป้องกันเด็กเปิดประตูเอง )

การขึ้นลงของคนนั่งด้านหลังก็สะดวกมากๆครับ เข้าออกได้สบายๆ โดยที่แผงประตูก็วัสดุเหมือนกับด้านหน้า มีผ้ากำมะหยี่สีน้ำตาลมาตัด มีช่องเก็บของ และที่วางขวดน้ำ สะดวกจริงๆครับ และมีสวิสต์เป็นเดือยพลาสติก เอาไว้ป้องกันเด็กเปิดประตูเองด้วย ดีงามมากครับ

คอนโซลรถ

( คอนโซล หน้ารถ ออกแบบมาแปลกๆ )

ภาพรวมของคอนโซลหน้า มันแปลกๆ มันขาดๆเกินๆยังไงไม่รู้ครับ มันเหมือนจะสมัยใหม่ แต่มันก็ดูโบราณ แปลกๆ การมาของจอทีวีระดับสายตา (แต่รุ่นผมเป็นแค่วิทยุปรกติ) ทำให้ช่องแอร์กลางต้องกระเด็นไปอยู้ด้านบนซะงั้น มันดูเลอะเทอะยังไงไม่รู้

 ( ดูความประหยัดของโตโยต้าสิ )

ผมเข้าใจนะครับว่า รีโว ออกมาหลายรุ่นมากๆ ทั้งมี Push Start และแบบใช้กุญแจไขปรกติ แต่รถผมไม่มี Push Start แต่พี่เค้าใช้บล๊อคเดียวกันทุกรุ่นมั้งครับ เลยเอาพลาสติกมาปิดช่อง Push Start เอาไว้ มันเลยดูเป็นส่วนเกินเลย อ่อถืมถ่ายภาพกุญแจไปครับ กุญแจที่ผมได้มาจะเป็นกุญแจพับได้นะครับ ขนาดใหญ่พอสมควร มีปุ่มกด เปิด ปิด รถ และปุ่มให้เราเรียกหารถครับ ดูหรูหราดีเหมือนกัน


พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้าน (มั้ง) รูปแบบดูเหลี่ยมๆยังไงไม่รู้ มันน่าจะออกแบบมาได้สวยกว่านี้หน่อยนะ วัสดุส่วนที่เราจับเพื่อขับรถเป็น ยูริเทน ยางๆนุ่มๆ ขนาดกำลังพอดีมือ ถือว่าจับถือได้กระชับมือมากครับ


มีปุ่ม Multifunction เอาไว้คอนโทรลวิทยุครับ โดยที่วิทยุรุ่นนี้มี Bluetooth ด้วยนะครับ เลยมี่ปุ่มกดรับโทรศัพท์ด้วย


แต่ถ้าซื้อรุ่นที่แพงกว่านี้จะมีครุยส์คอนโทรล มาในช่องว่างๆที่หายไปครับ เศร้าไหมหละครับ เล่นใช้โมเดียวกัน มันเลยดูแล้วโล่งๆเหมือน Push Start เลย เศร้ามาก มีปุ่ม DISP (Display) เอาไว้ปรับ Display ที่ช่องแสดงผลเหนือพวงมาลัยครับ เพื่อดูสถานะต่างๆ เช่น น้ำมันที่เหลือวิ่งได้อีกกี่กิโลเมตร หรือ ใช้น้ำมันไปกี่ลิตร / 100 กิโลเมตร


ก้านปรับด้านซ้าย เอาไว้ปรับความเร็วใบปัดน้ำฝน ที่มี 3 ระดับ โดยที่ใบปัดน้ำฝนก็เป็นแบบหน่วงเวลาได้ (หมุนเอาแกนตรงกลาง) ในความเร็วระดับแรก


ก้านปรับด้านขวา เป็นเรื่องระบบควบคุมไฟครับ ไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอก และ ไฟหน้า โดยไฟหน้าของรุ่นนี้ Prerunner 2X4 2.4E AT ก็ดีนะครับ ไฟหน้ามีโหมด เปิด ปิด ออโต้ด้วยครับ


หน้าปัทม์ นี่ดูจืดชืดมากครับ แต่ก็ไม่ได้โบราณจนเกินไป มีเส้นสายส่วนที่เงา มาตัดกับส่วนที่ด้านให้ดูมีลวดลายบ้าง โดยบอกสถานะต่างๆ ความเร็ว รอบเครื่อง ปริมาณน้ำมัน ความร้อน ปรกติ แต่ยังดีมีจอ LED บอกสถานะเกียร์ที่เข้าอยู่ และ สิ่งที่ดีงามคือหน้าจอ Multifunction ครับ

โดยจอ Multifunction ผมยังไม่ได้ลองเล่นทั้งหมด แต่คร่าวๆคือ
1. บอกระยะทางรวมว่าคันนี้วิ่งไปกี่กิโลเมตรแล้ว
2. Trip A Trip B
3. แสดงการขับขี่ของเราว่า ใช้น้ำมันเท่าไหร่  ลิตร / 100 กม. แบบ เรียลไทม์
4. แสดงการขับขี่ของเราแบบเฉลี่ยย ว่าใช้น้ำมันเท่าไหร่  ลิตร / 100 กม.
5. แสดงความเร็วเฉลี่ยที่เราขับ

จริงๆยังมีอีกหลายโหมด ขอลองไปเล่นเพิ่มเติมอีกหน่อย


ด้านขวาของพวงมาลัย จะมีสวิสต์ เพื่อปรับระดับความ สูง ต่ำ ของไฟหน้า ซึ่งปรับได้ 3 ระดับ ดีมากเลยครับ แต่ก็นะ ช่องว่างที่เอาไว้ใช้กับฟังชั่นอื่นในรีโวรุ่นอื่น มีช่องให้ใส่สวิสต์อีกเพียบ มันเลยดูโล่งโจ่งเลย
ถัดลงมาก็มีช่องให้เราโยกขึ้นเพื่อเปิดฝากระโปรงหน้า และ ฝาถังน้ำมัน จริงๆน่าจะทำคนละสีนะครับ สีเดียวกันแบบนี้ มี เปิดผิด เปิดถูก แน่นอน

มาดูส่วนของวิทยุ และ รอบๆวิทยุกันครับ


วิทยุเหมือนจะล้ำนะครับ แต่มันดูเหลี่ยมๆ แถมดูเป็นส่วนเกินยังไงไม่รู้ครับ และการที่เป็นวัสดุแบบนี้ (ผิวพลาสติกใสแบบกระจก) ถ้ามันเป็นรอยขีด มันจะชัดมากครับ และเลอะรอยนิ้วมือง่ายด้วย ปุ่มที่เห็นด้านข้าง ไม่ได้เป็น Touch Screen นะครับ แต่เป็นปุ่มให้เรากดแบบปรกติครับ ความพิเศษของวิทยุรุ่นนี้คือ มี Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เราได้ ใช้โทรเข้าออก และ สามารถเล่นเพลงจาก Smart Phone ของเราได้ (เป็น Out Put ของเสียงผ่าน Bluetooth ได้เลย)
และมีช่อง AUX อยู่ด้านหน้าเลย ให้เราเสียบสาย 3.5 มม. เพื่อต่อเพลงจาก Media ของเราได้ทั้ง โทรศัพท์ หรือ พวก iPod iPad Tablet ต่างๆ และมีช่องเสียบ USB เพื่อดูดเพลงจาก USB ไปเล่นได้ด้วย

ไฟสีส้มๆข้างวิทยุ ก็เหมือนกันครับ เหมือนจะล้ำ ความจริงคือเป็นแค่ไฟเตือนว่า Airbag ของคนนั่งด้านข้างทำงานอยู่ ห้ามเอา Carseat ของเด็กมาติดนะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุมา Airbag อาจดัน Carseat ได้นะ อะไรประมาณนั้น

คอนโซลตรงกลาง เป็นพลาสติกเงาสีดำ โดยวัสดุจะเหมือนมีกากเพชรระยิบระยับอยู่ภายใน ก็สวยไปอีกแบบนะครับ แต่มีมาแค่เนี้ยะ น่าจะเพิ่มตรงที่วางมือข้างประตูเป็นวัสดุแบบนี้ด้วยนะ มันจะได้เข้ากันทั้งคัน

( โบราณไหมครับ )

ส่วนที่หมุนปรับแอร์ ออกแบบมาได้เศร้ามากครับ มันเหมือนเตาแก็สอีกแล้วอะ ไม่รู้ทำไมจะ Design ให้มันสวยงามกว่านี้ไม่ได้หรือยังไง โดยมีตัวหมุนให้ปรับตั้งค่าแอร์แบบต่างๆ แถบเลื่อนซ้ายขวาเพื่อรับอากาศจากภายนอก หรือใช้อากาศจากภายในมาทำความเย็นของแอร์มีปุ่มให้กดไล่ฝ้ากระจกหลังได้

ด้านล่างเอาที่จุดบุหรี่ออกไปเลย และเพิ่มช่องเสียบไป 12V. มาแทน ก็ดีครับ ซื้อพวกที่แปลงไฟมาเป็น USB 5V. แบบซัก 2.1A เอามาชาร์จมือถือ Tablet ได้หลายช่องดีครับ ตรงกลางก็ซอยช่องให้ใส่สวิสต์สำหรับของแต่งอีกเพียบ



ช่องแอร์ด้านบน เล็กมากครับ แต่ลมก็ออกมาแรงพอสมควร มีตัวหมุนเพื่อลดแรงลมแอร์ หรือ ปิดแรงลมได้ (ซึ่ง Design แย่มาก) นาฬิกาดิจิตอล และไฟฉุกเฉินที่อยู่ไกลมือเกินไป กดยากไปนิด โดยรวมส่วนนี้มันดูเป็นส่วนเกิน และกินพื้นที่การมองหน้ารถไปพอสมควรครับ และที่สำคัญ การที่ช่องแอร์ไปอยู่ด้านบน แถมมีคอนโซลบางส่วนบังไว้ ทำให้เวลาเราปรับแอร์แบบกดหน้าลงเพื่อให้แอร์เป่าที่ตัวคนบริเวณกลางลำตัว ลมแอร์จะมาไม่ถึง เพราะลมแอร์บางส่วนมันถูกบังด้วยคอนโซลรถครับ

( เกะฝั่งคนนั่งด้านหน้าเป็นแบบ 2 ชั้น )

เกะรุ่นนี้แปลกดีครับ ออกแบบมาเป็นแบบ 2 ชั้น โดยที่ช่องด้านบนแอบมีของพิเศษด้วยครับ โฆษณาของรีโว เน้นตรงนี้เหมือนกัน พี่แกเรียกมันว่า Cool Box ให้เราใส่น้ำเข้าไปเพื่อให้น้ำเย็น



แต่ก็นะครับ มันไม่เย็นอย่างที่คิดหรอกครับ แต่ผมคิดว่าช่องนี้น่าจะเอามาใส่พวกอุปกรณ์ ไอที อย่างเช่น Wifi Router กล่องเล่นหนัง HD หรือ อาจจะเป็นพวก Apple TV หรือไม่ก็ Google Cast มากกว่า แล้วมีช่องแอร์เป่าไม่ให้พวกอุปกรณ์ที่ว่าไปนั้นมันร้อนจนเกินไป ซึ่งผมทำสำเร็จมาแล้วในรถที่ผมใช้ปัจจุบันนี้ และผมจะเอามารีวิวในครั้งต่อไปครับ


ช่องด้านล่างก็เป็นเกะแบบปรกติที่สามารถเก็บพวกสมุดประจำรถ คู่มือรถ เอกสารต่างๆได้สบายมาก เพราะช่องกว้างพอสมควรครับ วัสดุออกแนวพลาสติกเกรดถูกๆ แต่ก็ยืดหยุ่นดี


คันเกียร์ดูสวยงามดีครับเป็นขั้นบันได จนมาถึง D แล้วจะสามารถตบเกียร์มา S เพื่อทำการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงได้เองด้วย (แต่จะได้ใช้หรือเปล่า อันนี้ค่อยว่ากัน) มีปุ่มกดว่าจะเอา ECO Mode เพื่อขับขี่แบบประหยัดแต่แลกมากับความแรงที่ลดลง หรือโหมด PWR Mode เพื่อเพิ่มความแรงแต่ซดน้ำมัน ไปกดเลือกกันเอาเองครับ โดยที่ด้านบนของเกียร์จะมีช่องวางแก้วน้าอีก 2 ช่องครับ และยังมีช่องวางมือถือ หรือของจุกจิกอีก 1 ช่อง แต่ลืมถ่ายรูปมาจ้า

เรามาดูเก้าอี้กันบ้างครับ


ผมพยายามจะถ่ายรูปเบาะนั่งคนหน้า ภาพมันเลยออกมาแปลกๆแบบนี้ครับ 555 วัสดุเป็นผ้ากำมะหยี่สีน้ำตาล ที่มีคุณภาพมากครับ เนื้อผ้าละเอียดสวยงามจริงๆ ลวดลายของเบาะดีไซน์มาได้สวยงาม ความสูงของเบาะสูงมาโอบรับบ่าและหลังได้กระชับ พนักพิงศรีษะลงตัวกับเบาะมากเลยครับ นั่งขับระยะทางรวมๆราว 50 กม. ก็ไม่ได้รู้สึกเมื่อยอะไรครับ



เบาะหลังเมื่อเปิดประตูมาจะเห็นว่าเบาะหลัง แบ่งเป็น 2 ส่วน ให้เราสามารถยกเบาะขึ้นมาเพิ่มพื้นที่วางของได้ เบาะหลังมีพนักพิงศรีษะครบทั้ง 3 ที่นั่ง รวมทั้งเซฟตี้เบลท์ทั้ง 3 ที่นั่งด้วย
คุณภาพของฟองน้ำที่อัดขึ้นรูปเป็นเบาะ ดีกว่าวีโก้ตัวเก่าของผมมากครับ นั่งแล้วแน่นกระชับมาก ช่วงที่โอบรับขาเราขนาดพอดีๆ ทำให้นั่งสบายไม่เมื่อย


โดยที่นั่งตรงกลางมีที่ วางแขน และที่ วางแก้วน้ำด้วย ไฮโซมาก ไม่รู้ว่ายี่ห้ออื่นมีกันไหมนะ



ส่วนรูปที่ผมถ่ายเพื่อเน้นมานี้ คือความดีงามมากครับ ซึ่งต่อไปน่าจะเป็นมาตรฐาน และผมอยากให้เป็นวาระแห่งชาติเลย คือเบาะที่มีช่องสำหรับใส่เก้าอี้เด็ก หรือ Car Seat
สำหรับคนยังไม่มีลูกอาจงงว่ามันคืออะไร แต่คนที่มีลูกแล้วแบบผมเห็นแล้วถึงขั้นแปลกใจว่าเดี๋ยวนี้รถกระบะมีช่องที่เรียกว่า ISOFIX กันแล้ว เทพมากครับ

ไปอ่านเรื่อง ISOFIX กันได้ครับ https://en.wikipedia.org/wiki/Isofix

โดยถ้า Car Seat ที่ซัพพอร์ท ISOFIX จะมีคลิปคล้ายๆก้ามปูมาหนีบตรงจุดนี้ได้เลย ข้างในจะเป็นคานเหล็กมารองรับ แล้ว Car Seat นั้นจะไม่กระดุกระดิกไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุ เด็กก็จะอยู่ใน Car Seat อย่างปลอดภัยครับ ซึ่งมีการวิจัยแล้วว่า Car Seat ที่ติดแบบ ISOFIX จะหนาแน่นกว่า Car Seat ที่รัดเซฟตี้เบลท์นะครับ

ในต่างประเทศเช่น ยุโรป อเมริกา หรือญี่ปุ่นถึงขั้นมีกฎหมายมาบังคับเลยว่า เด็กอ่อนต้องนั่ง Car Seat ครับ ผมก็อยากให้ประเทศไทยมาร่วมด้วยนะครับ ราคา Car Seat เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้แพงมาก และคุณภาพสูงด้วย ดีกว่าอุ้มลูกอยู่ เกิดอุบัติเหตุแล้วเด็กปลิวออกนอกรถคนแรกมันแก้ไขอะไรไม่ได้จริงๆนะครับ และอย่าคิดนะครับว่านาทีนั้น คุณหรือผม จะป้องกันเด็กในอ้อมกอดได้ทันท่วงที มันเป็นอะไรที่เสี้ยววินาทีเท่านั้นเอง มาเสียใจทีหลังไม่ทันการณ์ครับ


ลองเข้าไปนั่งดู จะเห็นได้ว่าเหลือพื้นที่ว่างมากพอสมควร ผมสูง 163 ซม. โดยที่เบาะหน้าผมปรับให้เข้ากับสรีระผมแล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่วางขาแบบเหลือเฟือเลยครับ ข้อดีอีกอย่างคือ คนนั่งข้างหลังที่นั่งเบาะตรงกลาง จะเห็นว่าพื้นของคนนั่งกลาง แทบจะเป็นระนาบเดียวกับพื้นปรกติเลย ทำให้วางขาไม่เมื่อยครับ สังเกตุในภาพ จะมีที่แขวนของติดอยู่กับเบาะนั่งตอนหน้าด้วยนะครับ เผื่อเอาไว้แขวนถุงพลาสติก ถุงน้ำอะไรประมาณนั้น

การขับขี่ 

ผมไม่ได้เป็นนักวิเคราะห์ หรือรู้เรื่องระบบของรถมาก และไม่ได้มีรถมาเปรียบเทียบอะไรมากครับ เป็นแค่ User คนนึงที่รู้เพียงว่า รถยนต์ก็แค่พาเราจากที่นึงไปอีกที่นึงโดยปลอดภัย เท่านั้นเองนะครับ ดังนั้นการวิจารณ์ของผม จะเปรียบเทียบกับ วีโก้ 4 ประตูเกียร์ออโต้ คันเก่าที่ผมใช้เท่านั้นครับ

หลังจากที่ผมเริ่มสตาร์ทรถ ก็พบกับความเงียบของเครื่องยนต์ครับ ไม่ใช่ว่าเสียงเครื่องไม่ดังนะครับ ภายนอกมันก็ดังแบบปรกติแหละครับ แต่การเก็บเสียงทำมาได้ดีมาก เปรียบเทียบแล้วพอๆกับ Mazda CX-5 เลย อาจจะดังกว่านิดหน่อย แต่ก็ถือว่าทำมาได้ดีมากแล้วครับ ดีกว่าวีโก้คันเก่าแน่นอน

การเร่งเครื่อง ทำได้นุ่มนวลมาก การเร่งเครื่องเพื่อขับขี่แบบปรกติมีกำลังแรงมาก แม้เครื่องยนต์จะแค่ 2400 ซีซี. แต่รู้สึกไม่แตกต่างกับวีโก้ที่เครื่อง 3000 ซีซี. เลยครับ การเร่งแซงหรือกดเพื่อ kickdown ดีมากครับ อัตราเร่งมาทันใจดีมากจริงๆ

การเปลี่ยนเกียร์

ผมเจอกระชากอยู่ 2 ครั้ง แต่โดยรวมนุ่มนวลกว่าคันเก่ามากครับ แทบไม่รู้สึกเวลามีการเปลี่ยนเกียร์

การกระเทือน และซับแรงกระเทือน

อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นปรกติของกระบะยกสูงหรือเปล่า แม่ม กระเทือนมากเลยครับ แค่ผมสตาร์ทรถขับออกมาวิ่งบนถนนใหญ่ แปปเดียว ผมนี่มึนหัวไปหมด มันดูกระเทือนแรงมากเวลาพื้นถนนไม่เรียบ เด้งๆๆๆ ดึ่งๆๆ ไม่หยุดเลยครับ เลยกลับไปคิดหวนคืนถึงตอนแรกที่ผมถอยวีโก้มาขับ อาการก็ออกเป็นแนวๆนี้ แต่ไม่หนักเท่านี้ โดยผมได้ไปเปลี่ยนทั้งโช้คอัพหน้าหลัง และ สปริงหน้า แต่จริงๆผมเพิ่งมารู้คำตอบที่ถูกต้องหลังจากผมใช้วีโก้มา 2-3 ปี คือ ถ้าอยากให้นุ่มและนิ่ม ต้องแก้ที่แหนบครับ แต่สุดท้ายวีโก้ผมก็ไม่ได้แก้แหนบ เพราะถ้าทำให้แหนบนุ่มและนิ่งขึ้น มันจะเอาไปบรรทุกไม่ได้ครับ คือแหนบที่รถกระบะ 4 ประตูออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักราวๆ 8-900 กก.

สุดท้ายลองวัดลมยางดู พี่แกเติมมาให้จากโรงงาน ยางเบอร์ 265/65/17 ล่อไป 50 ppi เลยกระเด้งสะใจครับ หลังจากที่รู้เรื่องลมยาง จึงลดลงเหลือราวๆ 32 ppi ก็ยังเด้งอยู่นะครับ แต่ถือว่าไม่รุนแรงเท่ากับก่อนลดลมยางมากๆๆ ครับ แต่ถ้าถนนเป็นลูกคลื่นคุณจะพบกับการเด้งที่รุรแรงมากจนแทบอ๊วกเลยครับ

เรื่องการเบรก

ผมถือว่าเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่เลยครับ
คันเก่าวีโก้ของผม เบรกจัดได้ว่าห่วยที่สุดเท่าที่เคยขับรถมาเลยครับ เครื่องยนต์ดี เร่งดี แต่ตกม้าตายที่เบรก

แต่สำหรับ รีโว คันนี้ เบรกนุ่มนวลชวนฝันมากครับ มันเหมือนขับรถเก๋งที่เซตเรื่องเบรกมาอย่างดี นิ่มนวล ไม่หัวทิ่ม ไม่ต้องใช้แรงในการเหยียบ เบรกเยอะ มันเซตติ้งมาได้ดีมากๆครับ ผมให้ 5 ดาวเลยครับเรื่องระบบเบรก

สรุป

ขอวิจารณ์ โดยรวมก่อนนะครับ ราคาแม่ม แพงเวอร์ กับฟังชั่นที่ได้มาน้อยกว่าชาวบ้านชาวช่องเขามาก ทำให้ผมชักลังเลการวางตัวของโตโยต้าคราวนี้เลยครับ ถ้าไปอ่านๆเอาในเน็ตจะรู้เลยว่าคนออกมาบ่นเรื่องที่โตโยต้าเอาฟังชั่นดีๆเรื่องความปลอดภัย หรือพวกของที่ควรติดรถเช่นไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ที่ราคาระดับ 8แสนกว่าบาทควรน่าจะมีได้แล้ว ไปใส่ในรุ่น 9 แสนกว่าจนหมด เหมือนต้องให้คนซื้อจ่ายเพิ่มเติมถึงหลัก 9 แสนเพื่อแลกกับฟังชั่นที่ยี่ห้ออื่นเค้าก็มีกันแล้วในรุ่น 8 แสนกว่า และอีกอย่างคือ การซอยรุ่นที่ออกมามากจนเกินไป และการตัดรุ่นตัวอย่างเช่น 4 ประตูเกียร์ออโต้ ไปมีใน Prerunner เลย ทำให้ตัวเลือกแบบผมต้องจำใจซื้อ Prerunner อีก กลายเป็นรถที่อยากได้ 7 แสนกว่า หาไม่ได้แล้วครับตอนนี้

การเข้าไปในรถ บันไดเพื่อปีนขึ้นรถ มันหุบเข้าไปหน่อย ทำให้การปีนขึ้นรถลำบากพอสมควรครับ

ด้านการขับขี่ ถือว่าดีมากครับ ทั้งกำลังเครื่อง การเร่งแซง การเบรก การเปลี่ยนเกียร์ ถ้าไม่สนเรื่องราคา ผมว่ารถคันนี้ ดีมากเลยครับ

เครื่องเสียงภายใน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก จัดได้ว่า ห่วยพอสมควรครับ รถเกือบ 9 แสน ได้วิทยุ CD มีช่อง AUX และ USB เท่านั้นครับ ลำโพงเสียงก็ออกทุ้มมากๆ ปรับยังไงก็ไม่ใส มันทุ้มแปลกๆ ยังดีที่วิทยุเล่น MP3 แล้วอ่านไฟล์ภาษาไทยได้ อ่อ วิทยุ สามารถต่อ Bluetooth กับโทรศัพท์มือถือ เพื่อซิงค์เพลงเข้าไปฟังในวิทยุ ได้ด้วยนะครับ

ส่วนพวกที่วางแก้ว ต้องยกให้เค้าเลย มีที่ใส่น้ำและช่องใส่ของต่างๆมาให้อย่างหนาแน่นมากครับ

ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านครับ

เหมือนเดิม

1. ข้อมูลทั้งหมดออกมาจากผู้บริโภคคนนึงที่ซื้อสินค้าเอง จ่ายเงินเอง รีวิวเอง บ่นเอง ดังนั้นไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครนะครับ 

2. ภาพที่ผมถ่ายแบบห่วยๆ ใครอยากเอาภาพไปใช้ เชิญเลยครับถ้าผ่านมาอ่าน

3. การที่ผมให้ข้อมูลต่างๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาด กรุณาแจ้งครับ ผมจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง เพราะผมก็เข้าใจแบบนี้ ธรรมดาของผู้บริโภคคนนึง ที่ไม่ได้เข้าใจสุดๆเหมือนเจ้าของผลิตภัณฑ์หรอก

4. ถ้ามีการพาดพิงถึงใครและไม่พอใจ แจ้งได้นะครับ ยินดีเอาข้อมูลออกครับ เพราะ Blog นี้ผมพิมพ์ไว้อ่านเองอยู่แล้ว





11 ความคิดเห็น:

  1. บทความอ่านสนุกครับดีงาม

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากๆนะครับ เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ในฐานะผู้ใช้งานเหมือนกัน บทความเขียนดี น่าอ่านครับ ชอบๆๆ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณที่รีวิวครับ เป็นบทความที่ดีตามแบบuserตัวจริง เสียงจริง ชอบมากครับ ^^

    ตอบลบ
  4. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  5. ดีมากๆครับ กำลังจะซื้อพอดี แต่พอมาอ่านแล้วเห็น option แล้วคิดหนักเหมือนกัน

    ตอบลบ
  6. ดีมากๆครับ กำลังจะซื้อพอดี แต่พอมาอ่านแล้วเห็น option แล้วคิดหนักเหมือนกัน

    ตอบลบ
  7. บทความให้ความรู้ในการตัดสินใจดีครับ

    ตอบลบ
  8. เยืยมครับเป็นข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ไม่ได้อวยยี่ฮ้อ เป็นการให้ตัดสินใจง่ายขึ้น

    ตอบลบ
  9. เห็นด้วยหลายส่วนมากครับ เพราะตอนนี้ ผมใช้รีโว่รุ่นสมารท์แคปยกสูง รุ่น E plus ครับ ข้อดี คือ ไฟหน้า ระบบไฟทำดีมากครับ ขับแรงได้ใจ นุ่มนวลเกียร์ ดีมาก เสียงเพลงกระหื่มทรงพลังดีมากครับ โหมดปุ่มpw ก้อแรงดี แต่กินน้ำมันจริงครับ ขับสนุก เข้าโค้งติดหนึบเลยครับ ผมขับจากภูเก็ต ไปเชียงใหม่ครับ ไม่เหนื่อยเลยครับ มันดีมากเรื่องเครื่องยนต์ 2.4 แรงม้า150ครับ แต่ๆๆๆๆๆข้อเสียก็มีเยอะมากครับ ดังนี้ครับ หน้าปัด ไม่แสดงบอกผลว่าคงเหลือเท่าไร ใช้น้ำมันขับไปได้อีกกี่กิโล หน้าปัดบอกว่า ตอนนี้กิโลที่เท่าไร ตัวเล็กมาก และบอกอุณหภูมิเนี่ยะ มันไม่จำเป็นเลยครับ น่าจะบอกวันเดือนปี และเวลามากกว่า ส่วนช่องที่วางแก้วน้ำนี่มาวางข้างหน้าเกียร์ มันทำให้ไปชนกับช่องยูเอสบีซะนี่ และช่องเก้ะเปิดปิดเปิดยากกกกกมาก ไม่สะดวกเลย ของยารีส ยังสวยและสะดวกกว่าอีก และตรงบันไดขึ้น ก็เล็กนิดเดียว แคบและไม่สะดวกเวลาขึ้นลง เนวี่ก็ไม่มี ถ้ามีและให้ผมเพิ่มเงินอีกนิด ผมก็ยอม ช่องใส่ขวดน้ำก็เล็ก ใส่ขวดใหญ่ไม่ได้เลยที่ด้านข้างคนขับ คนออกแบบนี่ผ่านมาได้ยังงัยกับโตโยต้าร์ เนี่ยถ้าออกแบบภายในสวยเหมือนนาวาร่า หรือดีแมกซ์ ผมว่ายอดถล่มทลายแน่ครับ อ้อ ถึงยังงัย ผมก็รักโตอยุ่ดีครับ เพราะทรงสวย บึกบึนดีครับ

    ตอบลบ
  10. ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ อ่านจนจบ กำลังตัดสินใจแต่รับไม่ได้กับปุ่มแอร์จริงๆ

    ตอบลบ
  11. ให้ความรู้ได้ดีระดับนึง. อย่างน้อยได้เปรียบเทียบกับรุ่นวีโก้ได้เห็นพัฒนาการของโตโยต้า. ครับขอขอบคุณที่ได้แชร์ประสบการณ์..น่ารักมากครับ

    ตอบลบ