Asuka HR-600 ดิจิตอลทีวีที่เปลี่ยนการฟังเพลงของผมไปตลอดกาล

13 กุมภาพันธ์ 2016

คำนำ 

สินค้าตัวนี้ ผมทำบทความไว้เพราะกลัวว่าวันนึงจะลืมหน้าตาของมันเพราะมันติดอยู่ภายในคอนโซลรถ กลัวจำไม่ได้เลยต้องเอาความทรงจำรีบมาทำบทความกันลืม

สินค้าครั้งนี้ที่ผมได้เลือกมันมาจากการงงๆของตัวผมเอง เนื่องจากรถที่ผมใช้อยู่ ผมได้ติดทีวี ดิจิตอล อยู่แล้ว (ของจีน ซื้อตามเว็บมา 2500 บาท แล้วไปจ้างร้านเค้าติด ตอนนั้นคิดว่า ก็งั้นๆ ได้ของราคาถูก สุดท้ายก็ต้องมาซื้ออันใหม่เพราะอันเก่าห่วยมาก) แต่คุณภาพแย่มาก ค่อนไปทางห่วยแตกครับ คือของเดิม ไม่มีสติกเกอร์ กสทช ใดๆทั้งสิ้น แถมตอนที่ติด ทีวีดิจิตอลก็เพิ่งจะเริ่มทดลองออกอากาศ ในใจผมตอนนั้นประมาณว่า ของลองก่อนชาวบ้านเลยแล้วกัน เสาดิจิตอลช่างก็ยังไม่ค่อยเป็น ก็ติดแปะกับกระจกภายในรถ รับสัญญาณได้ห่วยมาก ขับรถไป 60 กม./ชม ก็ดูไม่ได้แล้วครับ

ปีกว่าๆผ่านไป เลยกลับไปร้านเดิมให้เค้าแนะนำ ทางร้านก็แนะนำมา 2 รุ่น คือ Asuka HR-600 และ Asuka HR-630 ซึ่งเป็นบอดี้โมเดลของปี 2016 นี้ ซึ่งใหม่สุดในตลาด และแพงโฮกๆ แบบไม่กล้าบอกราคาเมียกันเลยทีเดียว (โกหกไป 5000 บาท ของจริงขอไม่บอกนะค้าบ)

ซึ่งทั้ง 2 รุ่นต่างกันหลักๆเลยคือ
1. เสารับสัญญาณคนละโมเดล
2. Asuka HR-630 มี HDMI IN ซึ่งเป็นข้อดีมากๆ

ตอนแรกผมก็งงๆนะ Asuka เคยได้ยินชื่อบ้าง เพราะ Search ตามเวป ส่วนมากร้านก็จะแนะนำยี่ห้อนี้กันทั้งนั้น เลยไป Search ดู ก็ได้ความมาว่า เป็นบริษัทจากไต้หวัน ซึ่งก็ยังดี อย่างน้อยก็ไม่ใช่จีน และตัวสินค้ายังได้รับรองจาก กสทช มาแล้ว เลยพอมั่นใจ อีกทั้งของเก่าก็ห่วยเกินบรรยาย จะแก้ไขเองก็ทำไม่เป็นเพราะรถผมรื้อคอนโซลยากมาก เลยได้พึ่งฝีมือช่างเอาจ้า

สุดท้ายผมเลือก Asuka HR-600 เพราะ HDMI IN ผมมีแล้วในรถ เลยไม่ซีเรียส ทั้ง 2 รุ่นต่างกัน 2000 บาท ส่วนราคาตั้งต้นพร้อมติดตั้ง ไปหาตามเวปเอานะครับ แต่ละร้านสงสัยนัดราคากันมา บวก ลบ กันราวๆ 500 บาทเอง คือไปติดร้านไหนๆก็โดนราคาเท่าๆกันครับ

เอาหละ เข้ารีวิวสินค้ากันดีกว่า

เนื่องจากสินค้าตัวนี้ไปติดที่ร้านติดเครื่องเสียง ผมจึงไม่มีภาพสินค้าจริงๆในมือเลย ผมเลยขอเอาภาพมาจากเวป

http://www.driversoundinter.com ซึ่งเป็นร้านรับติดเครื่องเสียงระดับแนวหน้าใน กทม. ครับ
(แต่ผมไม่ได้ไปติดกับทางร้านนะครับ ผมขอยืมรูปมาเฉยๆ)

ถ้าทางร้าน http://www.driversoundinter.com ได้เกิดผ่านมาเห็น Blog ผมแล้วไม่พอใจ ผมยินดีเอารูปออกให้เลยครับ แต่ถ้าไม่ติดใจ ก็อยากให้เพื่อนๆที่ได้เข้ามาอ่านกันสอบถามทางร้าน http://www.driversoundinter.com เป็นอันดับแรกนะครับ

http://www.driversoundinter.com/products/detail-products.php?pro_list_id=319&pro_brand_id=32

ลิ้งข้างบนนี้คือลิ้งของทางร้าน ที่ได้รีวิวตัว Asuka HR-600 เอาไว้ ลองไปอ่านๆกันดูนะครับ ซึ่งภาพถ่าย ช่างภาพมีฝีมือมากครับ ภาพสวยงาม เลยขอเอามาใช้แนะนำเพื่อนๆนะครับ 5555

(แกะกล่องออกมาจะเป็นแบบนี้ครับ)

ภายในกล่องผมก็เห็นแค่แว๊ปเดียวครับ แต่ที่แน่ๆคือ มี 

1. ตัวเครื่อง Asuka HR-600 มีสติกเกอร์รับรองจาก กสทช ว่ามีการทดสอบมาแล้ว 

2. รีโมท คุณภาพของรีโมทการประกอบแน่นดีมากครับ จับได้กระชับมือ และไม่ใหญ่ แต่การวาง Layout ของปุ่มต่างๆของรีโมททำให้กดยากนิดนึงครับ

3. เสาดิจิตอลทีวี แบบมีไฟเลี้ยงมาจากกล่อง (มั้ง เพราะไม่เห็นมีสายไฟแยกในภาพ)

4. สาย Connector กับรถซึ่ง มีสติกเกอร์ว่า Alpine + Kenwood Touch Screen Support คือเอาไปติดกับจอ วิทยุ Alpine + Kenwood แล้วรองรับระบบ Touch Screen กันทันที ซึ่งเท่าที่ถามร้านที่ผมไปติดตั้งเค้าว่าสายที่มาในกล่องก็รองรับปุ่มกดจากพวงมาลัยของรถหลายรุ่น (แต่รถผมทำไม่ได้เศร้าแปป)

(กล่องดูสวยงาม การประกอบแน่น)

วัสดุของกล่องทำมาได้ดีครับ แข็งแรงมากๆ น่าจะเป็นกล่องเหล็กเพื่อให้ระบายความร้อนออกมาจากกล่องได้ทุกด้าน ผิวของกล่องสากๆมือ ขนาดของกล่องใหญ่พอสมควรนะครับราวๆเกือบครึ่งของกระดาษ A4 ได้ ซึ่งขนาดใหญ่กว่ากล่องเดิมผมเกือบ 2 เท่า

บนหน้ากล่องเขียนถึงยี่ห้อและสรรพคุณว่ารองรับ 1080p ได้ / DVB-T2 ตามแบบฉบับของประเทศไทย และชื่อรุ่น HR-600 ตัวใหญ่มากๆๆ



มีชุดรองรับ AV-IN (ไว้ต่ออุปกรณ์อะไรก็ได้ที่มี สาย AV หรือสาย 3 สี เหลือง ขาว แดง) + CCD IN (น่าจะเอาไว้ต่อกล้องมองหลังมั้งอันนี้ไม่แน่ใจ) และ DVR IN จะเอาไว้ต่อกล้องหน้ารถ (ฟังก์ชั่นนี้คนขายว่าเอาไว้รองรับอนาคต Asuka กำลังจะทำกล้องหน้ารถมาขาย)

(USB Port ตัวสำคัญ)

อีกฝั่งเอาไว้รองรับ Media ที่เป็น USB Port จะเป็น USB Thumb Drive หรือ HDD External ก็รองรับครับ ซึ่งผมลองต่อ HDD External (กล่องที่เอา HDD Notebook ยัดเข้าไป) โดย Format ของ HDD เป็น NTFS ขนาด 500 GB. ก็สามารถทำงานได้ดี ไม่มีการสะดุดหรือไฟไม่พอไปเลี้ยง HDD เลยครับ ดีงามมากๆจริงๆ

ข้างๆกันคือ ไฟ LED บอกสถานะของกล่อง ซึ่งเราก็ไม่เห็นมันอยู่แล้วเพราะยัดไว้ในคอนโซลรถ
ดังนั้น ถ้าจะติดตั้งแบบเนียนๆ ยัดกล่องไว้ในคอลโซลรถ ต้องอย่าลืมเพิ่มสาย USB IN ให้ยาวออกมาด้วยนะครับ สายเป็นแบบนี้นะครับ

( ขอยืมภาพมาจาก homenet48.com ครับ )

มันจะเป็นสายด้านนึงเสียบไปกับตัวเครื่อง Asuka HR-600 ส่วนอีกด้านก็ให้ช่างติดตั้งลอดสายมาไว้ในลิ้นชักฝั่งคนนั่งด้านหน้าครับ จะได้เอาไว้เสียบ HDD หรือ USB Thumb Drive ได้ (แต่เลือกสายสีดำดีกว่านะ สีฟ้ามันเด่นไป)

(อีกด้านของกล่อง)

Port อีกด้านของกล่องจะเป็นฝั่งสัญญาณ Out Put บ้างครับ

(Port OUT ไล่เรียงกันไป)

(Connector ของเสาสัญญาณ)

ไล่มาจะเริ่มจาก Antenna หรือช่องรับสัญญาณ ดิจิตอลทีวีจากเสา จากในรูปน่าจะเป็นแบบ F-Type ทั่วๆไปเลยครับ ข้อดีคือ ส่วนมากเสาที่ขายกันในท้องตลาดจะเป็นแบบ F-Type ดังนั้นถ้าเสาสัญญาณเสียหาย เรายังหาอะไหล่มาเปลี่ยนได้ง่ายครับ



ข้างๆกันเป็น HDMI Out ซึ่งผมไม่ได้ใช้ครับ เพราะ Port Input ของผมมันก็รองรับได้แค่ AV ครับ

(หน้าตาเสาสัญญาณ)

ในชุดจะมีเสามาให้ 2 ต้น เป็นแบบติดภายนอกรถ ดังนั้น เสาต้องกันน้ำ กันฝุ่นได้ครับ โดยส่วนมากจะติดเสานึงที่ กระจังหน้ารถ หรือ แถวๆหลังทะเบียนรถ ส่วนอีกเสาจะเอาไปติดที่กันชนด้านหลังครับ จะได้เฉลี่ยๆการรับสัญญาณกันไป เผื่อเจอที่อับสัญญาณจะได้มีอีกเสามาคอย Backup และสายที่ทาง Asuka ให้มายาวมากๆครับ ไม่ต้องมีการตัดต่อสายเลย น่าจะราวๆ 5 เมตรได้



ซึ่งพอเอาเสามาเสียบกับกล่องก็จะเป็นดังภาพ จะเห็นได้ว่าตรงหัวคอนเนกเตอร์มันยาวเกะกะมากนะครับ ถ้าจะทำเองก็ต้องเผื่อที่ไว้ให้คอนเนกเตอร์ด้วย





ถัดมาจะเป็น AV OUT ซึ่งมันจะ OUT สัญญาณภาพได้ 2 ชุดเพื่อเอาไปออกจอคนนั่งด้านหลังได้อีกไงครับ ส่วนสายเสียง ขาว แดง ก็เอาไปเข้า Input ของวิทยุเดิมในรถ

ข้างๆกันคือ Monitor Port และ IR port

Monitor Port เท่าที่ถามช่างมาคือ เอาไปต่อกับ TV ของรถรุ่นใหม่ๆได้เลย มันจะเป็นแบบปลั๊กตัว Y แบบไม่ต้องตัดต่อสายสัญญาณ เสียบแล้วใช้ได้เลย น่าอิจฉามาก

ส่วน IR port น่าจะเอาไปต่อตัวรับสัญญาณรีโมท ซึ่งช่างของผมเค้าเอาไปติดที่หลังกระจกมองหลังครับ ขนาดของตัวรับ รีโมท มันจะเป็นสี่เหลี่ยม ขนาดราวๆ 2x4 ซม. ได้ครับ อันนี้ไม่แน่ใจ 55

การใช้งานจริง
ซึ่งผมจะเอาความเห็นส่วนตัวอย่างเดียวล้วนๆ ไม่มีการอวยสินค้า เพราะก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว 555
โดยจะแบ่งเป็น 2 Part
1. การทำงานในหน้าที่ ดิจิตอลทีวี
2. การทำงานในหน้าที่ Media Player

แต่ก่อนอื่น ขอเกริ่นเรื่องการทำงาน และ User Interface ของ Asuka ก่อนนะครับ
เวลาเราสตาร์ทรถ กล่อง Asuka จะทำงานทันที และจะเข้าไปที่การทำงานอันสุดท้ายของเราก่อนที่จะดับเครื่องคราวที่แล้ว เช่น ถ้าดับเครื่องครั้งที่แล้ว กำลังดูดิจิตอลทีวีอยู่ พอสตาร์ทรถ ก็จะเป็น ดิจิตอลทีวีเลย หรือ ถ้ากำลังดูหนัง ฟังเพลงอยู่แล้วดับเครื่องไป พอสตาร์ทรถก็จะกลับมาเล่นเพลง หรือหนังเรื่องเดิมทันที (แต่เพลงจะเริ่มที่ต้นเพลงเลย ส่วนหนังยังไม่ได้ลองทดสอบครับ)

โดยทางคนขายได้ย้ำเตือนมาว่า อย่ากดปิดกล่อง Asuka จากรีโมท เพราะจะทำให้ช่องทีวีดิจิตอลหายไป (คือเมมโมรีหาย) ต้องสแกนหาความถี่ใหม่ ให้ดับเครื่องยนต์ทั้งที่กล่องยังทำงานอยู่ไปเลย กล่อง Asuka ออกแบบมาแบบนี้อยู่แล้ว

(ทำใจกับหน้าตา User Interface นิดนึงนะครับ)

(หน้าตารีโมทของ Asuka HR-600 ติดตั้งมาเหลือให้เห็นอย่างเดียว)

User Interface ของ Asuka รองรับภาษาไทย 100% นะครับ เท่าที่ลองยังไม่เจอภาษาต่างดาวเลยครับ Track ของเพลง หรือชื่อของหนังขึ้นตรงทั้งหมด ไม่มีการสระโย้ สระหายใดๆทั้งสิ้น

โดยที่ User Interface จะเป็นแบบสมัยนี้แหละครับ เป็น Icon สีต่างๆ โดยจะมี 5 Icon
1. ทีวี ดิจิตอล พระเอกของเรา
2. วิทยุ ดิจิตอล ที่ยังไม่คลอดในไทย
3. Movie หรือเอาไว้ดูหนัง
4. Music เอาไว้ฟังเพลง (โครตพระเอก ประมาณพระเอกตัวจริง)
5. ฟันเฟือง การตั้งค่าต่างๆ เช่น ตั้งค่าขนาดภาพ ตั้งค่าความสว่างของจอ การจูนสัญญาณดิจิตอล

เอาหละครับ เข้าสู่การทำงานของดิจิตอลทีวีกันครับ
หลังจากเราติดตั้งเสร็จ ระบบจะจูน (หรือค้นหา) สัญญาณทีวีดิจิตอลครั้งแรกกัน ใช้เวลาราวๆ 5 นาทีได้ครับ โดยปัจจุบัน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2016 นี้ รายการทีวีดิจิตอลส่งสัญญาณ 36 ช่อง โดยจะดูได้ 28 ช่อง
และหลังจากค้นหาสัญญาณเสร็จ ช่องจะเรียงตามที่ กสทช กำหนดเลย อย่างเช่น ช่อง 5 ก็เลข 1 หรือช่อง 3HD ก็ช่อง 33 สะดวกมากครับ กล่องของเก่าผมต้องมาเรียงช่องสัญญาณเอาเอง
แต่ข้อไม่ดีคือ ระบบของรีโมท กดให้ขึ้นมาเป็น List ของช่องแล้วกดเลือกช่องไม่ได้ครับ ต้องกดหมายเลขช่อง หรือ กด ขึ้น ลง เพื่อเปลี่ยนช่องเอา ข้อนี้ไม่ค่อยชอบครับ

(รายการขึ้นมาเป็น List โดยกดปุ่ม EPG ที่รีโมท)

ผมขอแก้ไขข้อมูลครับ
หลังจากได้ลองมาวันนี้ 14 กุมภาพันธ์ 2016 ทำให้ค้นพบว่า ปุ่ม EPG บนรีโมท ทำให้แสดง List ของช่องได้ดังภาพครับ

เท่าที่ผมได้ใช้งานมาหลายวัน ประทับใจเรื่องคุณภาพสัญญาณดิจิตอลทีวีมากครับ ส่วนมากผมจะขับรถวนเวียนภายในเมือง กทม. สีลม สาทร พระราม3 มีเข้าห้างบ้าง เช่น เซ็นทรัลพระราม 3 ซึ่งผมจะลงใต้ดินตลอด มีขับออกไปปทุมธานี 1 วันโดยใช้ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก)

(ความแรงสัญญาณขึ้น 100% เกือบตลอด รูปนี้ถ่ายบนถนนวิทยุ)

ถ้าบนถนน สัญญาณ จะมาเกือบเต็มตลอดในเขต กทม ทุกที่ๆผมไปเลยครับ ยังไม่เจอสะดุดหรือกระตุกให้เห็นแม้แต่ครั้งเดียว

ส่วนตอนเข้าห้าง พอลงใต่ดินชั้น B1 เท่านั้นหละครับ ดับเหลือ 0 ทันทีซึ่งผมคิดว่ากล่องเทพแบบไหนก็ไม่รอดครับลงใต้ดิน แต่พอออกจากห้างแค่หัวรถยื่นออกมาชั้น 1 เท่านั้น สัญญาณก็กลับมาเต็มและดูได้ทันที ซึ่งดีงามกว่ากล่องจีนอันเก่าของผมมากๆ

สำหรับการขับออกต่างจังหวัด ทางคนขายได้แจ้งว่า ถ้าเขต กทม และ ปริมณฑล จะใช้ความถี่เดียวกัน ดังนั้นไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้ามีการออกไปต่างจังหวัดไกลกว่านั้นเช่นไปทางระยอง (พัทยายังไม่มีเสาทีวีดิจิตอล ไม่รู้ทำไม แต่ระยองดันมี งงดีไหม) หรือ ขึ้นเหนือไปเชียงใหม่ ต้องกดค้นหาสัญญาณใหม่เพราะเสาสัญญาณมันส่งคนละความถี่ แต่จะค้นหาไม่นานเท่าครั้งแรก หมายเลขช่องจะเหมือนเดิม แต่ความถี่จะเปลี่ยนไป ดังนั้นถ้าออกต่างจังหวัดแล้วดูไม่ได้ สแกนความถี่กันใหม่ด้วยนะครับ

ซึ่งผมไปจังหวัดปทุมธานี ผ่านทางถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ขับรถความเร็ว 120 กม./ชม เกือบตลอดทางจนเข้าเขตลำลูกกา สัญญาณ เกือบ 100% ตลอดทาง ซึ่งดีมากครับ กล่องเก่าของผม 60 กม./ชม ก็จบข่าวแล้วครับ

สำหรับคะแนนของดิจิตอลทีวี เอาไปเลยครับ 9 เต็ม 10 ขาดแค่สัญญาณภายในอาคารที่หายไปซึ่งก็ยอมรับได้ครับ ลงชั้นใต้ดินยังไงก็ไม่น่ารอด

ส่วน วิทยุดิจิตอล ประเทศไทยยังไม่เริ่มเลยครับ อันนี้ผ่านไปก่อน

มา Part ของ Media Player บ้าง

1. เรื่องการดูหนัง หรือ Movie รองรับ File MKV ได้แน่นอนครับ แต่ข้อเสียคือ มันต้องเป็น File MKV ที่ฝัง Subtitle มาเลยในตัวถึงจะเลือก Subtitle ได้ ถ้า File ที่เป็นแบบ Subtitle แยกจะเลือกไม่ได้ครับ ส่วนการเลือก Audio หรือภาษาที่พูดออกมา กดเลือกได้ตามปรกติครับ หนังที่ผมลองคือ The Martian กู้ตาย 140 ล้านไมล์ มันดันเป็น Subtitle แยก กดเลือกไม่ได้ แล้วผมดันไปกดโดนปุ่มอะไรซักปุ่ม กลายเป็น Asuka มัน Restart เลย จบเห่ คือ พอดูได้บ้างหละครับ หนัง MKV แต่ต้องทำใจเรื่อง Subtitle ไว้หน่อยครับ ส่วนไฟล์อื่นๆ เช่น AVI MP4 ยังไงก็รองรับอยู่แล้วจ้า

ข้อนี้ให้ 6 เต็ม 10

2. เรื่องของการฟังเพลง อันนี้อะเมซิ่งมากครับ Asuka มันไม่ได้แค่ถอดรหัสเพลง MP3 ได้นะครับ มันยังถอดรหัสเพลง Lossless หรือ เรียกง่ายๆว่าเพลงที่ ริพ (RIP) มาจาก CD แบบคุณภาพของเพลงมาครบๆ ไม่มีส่วนไหนของเพลงที่ขาดหายไปซึ่งเพลงแบบ Lossless ถ้าได้ฟังจะติดใจมากๆครับ โดย Asuka สามารถ ถอดรหัสเพลง Lossless ที่เป็นไฟล์นามสกุล .flac ได้ ซึ่งดีงามมากเพราะส่วนมากคนที่ริพเพลงจะทำ Out Put เป็น ****.flac กัน ผมก็มีทำไว้บ้างจากแผ่น CD แท้ที่มีอยู่ จะได้เอาใส่ HDD ไปฟัง ไม่ต้องใช้แผ่น CD แล้วจ้า แผ่นก็เอาไว้บูชาในบ้านกันไปครับ หรือ ถ้าเป็นสาย Dark โหลด Bit เอา เพลง Lossless ก็จะเป็น Flac ซะส่วนมาก การฟังเพลงจะได้อรรถรสมากๆครับ

การริพแผ่น CD เพลง แนะนำโปรแกรม Foobar2000 ใช้งานง่ายมากๆเลยแถมเอามาฟังเพลง Lossless ได้ด้วย

https://www.foobar2000.org/ สุดยอดโปรแกรมฟังเพลง Lossless และ RIP แผ่นครับ

การทำงานข้อนี้ผมให้ 100 เต็ม 100 เลยครับ เพลงที่ออกมาเพราะมากๆๆกว่าพวก file MP3 ซัก 100 เท่าเลย ไม่เชื่อว่าพวกกล่องๆแบบนี้จะเล่นอย่างอื่นได้นอกจาก MP3 เลยเหนือความคาดหมายครับ



Setting หรือการตั้งค่าต่างๆ ก็ตามปรกติที่ควรมีครับ เช่นการแสดงผลของภาษาซึ่งดีมากที่รองรับภาษาไทย 100% การแสดงผลเต็มจอ หรือ ตามขนาดของไฟล์หนังที่เราเปิด การตั้งค่าเสาอากาศ การค้นหาสัญญาณทีวีดิจิตอล และการตั้งค่าโรงงาน

โดยรวมผมประทับใจมากครับกับกล่อง Asuka HR-600 
ข้อดีคือ 
1. การทำงานของดิจิตอลทีวีที่ทำงานได้เกือบ 100%
2. การดูหนัง ฟังเพลง ที่เหนือความคาดหมาย
3. การรองรับ HDD NTFS ดังนั้น File หนังจะขนาดใหญ่กว่า 4 GB ได้ (ไปหาอ่านเอานะครับ เรื่อง HDD แบบ FAT32 กับ NTFS กับการรองรับขนาดไฟล์)
4.การรองรับภาษาไทยแบบ 100%

ข้อเสีย
1. ปุ่มของรีโมทเล็กมากๆๆ ตัวอักษรยิ่งเล็กเข้าไปใหญ่ ทำให้กดลำบากไปนิด
2. รีโมทไม่มีไฟที่ปุ่ม ดังนั้นในความมืดเวลากลางคืน ไปไม่เป็นเลย กดไม่ถูกครับ ต้องเปิดไฟในรถแล้วดูเอา
3. การ Control ของรีโมทมันขัดใจเล็กน้อย
4. การเลือก Subtitle ยังมีปัญหา แต่ก็นะ แค่เล่น MKV ได้ลื่นๆก็ถือว่าดีงามแล้ว
5. ถ้าจะติดตั้งเอง ต้องมีฝีมือในระดับนึง เพราะต้องเดินสายสัญญาณ หลายเส้น ให้ช่างทำเหอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระกับตัวเอง

เช่นเคยครับ

1. ข้อมูลทั้งหมดออกมาจากผู้บริโภคคนนึงที่ซื้อสินค้าเอง จ่ายเงินเอง รีวิวเอง บ่นเอง ดังนั้นไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครนะครับ

2. การที่ผมให้ข้อมูลต่างๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาด กรุณาแจ้งครับ ผมจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง เพราะผมก็เข้าใจแบบนี้ ธรรมดาของผู้บริโภคคนนึง ที่ไม่ได้เข้าใจสุดๆเหมือนเจ้าของผลิตภัณฑ์หรอก

3. ถ้ามีการพาดพิงถึงใครและไม่พอใจ แจ้งได้นะครับ ยินดีเอาข้อมูลออกครับ เพราะ Blog นี้ผมพิมพ์ไว้อ่านเองอยู่แล้ว

4. อย่างที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า รูปทั้งหมด ผมเอามาจากเวป http://www.driversoundinter.com ซึ่งถ้าผ่านมาอ่าน Blog นี้แล้วสนใจสินค้า กดเข้าไป http://www.driversoundinter.com ผมช่วยโฆษณาเลยครับ เพราะผมเอารูปเค้ามา ให้เครดิตเต็มๆเลยครับ แต่ถ้าทาง http://www.driversoundinter.com ไม่ชอบใจที่ผมเอารูปมาใช้ แจ้งมาได้เลยครับ ผมยินดีที่จะเอารูปทั้งหมดออกให้ทันทีครับ ขอขอบคุณทาง http://www.driversoundinter.com ไว้ ณ ที่นี้ครับ รูปภาพสวยมาก คนถ่ายภาพมีฝีมือจริงๆ