6 พฤษภาคม 2559

ประกอบ Mini PC เพื่อเป็น Data Center ไม่ได้โหลด Bit เลยจริงจริ๊ง Biostar N3050NH

คำนำ

การประกอบ Mini PC ครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยครับ ถ้า NAS (Network Attached Storage) ยี่ห้อ Buffalo Link Station Pro Duo ที่ผมมีอยู่ไม่เกิดงอแงขึ้นมา ช่วงหลังๆออกไปทางหยุดทำงานเลยทีเดียว

แล้ว NAS Buffalo Link Station Pro Duo คือ อะไรหละ

(ผมใช้รุ่นนี้เลยครับ)
http://www.buffalotech.com/products/network-storage/home-and-small-office/linkstation-pro-duo-1

มันคือ กล่องที่เราสามารถยัด Hard Drive เข้าไป 1-2 ตัว แล้วเราสามารถจ่ายงานให้มันทำได้ว่าสิ่งที่ NAS ต้องทำคือ อะไร เช่น เป็น ที่เก็บ File ซึ่งผมเก็บ File รูปภาพที่ผมถ่ายไว้ใน NAS เก็บเพลง เก็บหนัง ซึ่งเมื่อเราเก็บข้อมูลต่างๆลงไปใน NAS แล้วเราเชื่อมต่อ Network ให้กับ NAS จะทั้ง LAN หรือ อินเตอร์เนต เราสามารถเข้ามาขอข้อมูลออกไปใช้จาก NAS ได้ด้วย

แต่หลักๆของผมคือ เก็บไฟล์พวก Multimedia รูป เพลง หนัง โดยเราก็ Stream สิ่งต่างๆที่ต้องการออกไปดูที่ ทีวี มือถือ iPad iPhone Android ได้ โดยไม่ต้องมา Copy ไฟล์จาก NAS ออกไปเลยแม้แต่นิดเดียว ใช้ Stream เอาสะดวกสุดๆ

แต่เผอิญช่วงนี้สิ่งนึงที่ NAS ของผมงอแงคือ ระบบการ Download File ครับ เมื่อก่อนผมสั่งให้ NAS Download ไฟล์เป็น 10-30 ไฟล์พร้อมๆกัน ไม่มีปัญหาเลยซักนิด แต่หลังๆมานี่ระบบมันรวนมากๆ หยุดทำงานไปเอง ทำให้ผมต้อง Reset ระบบภายในของ NAS บ่อยมากๆ เลยกลัวว่าเดี๋ยวจะทำให้ HDD ที่อยู่ข้างในเสียซะก่อน เลยกะจะแยกระบบการ Download File ออกมาซะเลย

ก็มานั่งคิดว่า ประกอบคอมพิวเตอร์จิ๋ว ให้มันกินไฟน้อยๆ อุปกรณ์น้อยๆ ซักเครื่องนึงดีกว่า ว่าแล้วก็ลองเสาะหาในเนตว่า คอมจิ๋วเดี๋ยวนี้ มันจะจิ๋วได้ซักขนาดไหน

ซึ่งเทคโนโลยีปัจจุบัน มันก็จิ๋วได้ถึงขนาดฝ่ามือกันแล้ว




(รูปทั้งหมดมาจาก Aliexpress ครับ)

มีทั้งแบบ Computer Stick แบบเท่าฝ่ามือ และแบบกล่อง Set Top Box

โดยส่วนมากจะเป็นแบบคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป CPU จะเป็น Atom Z3735f แล้วหน้าตามันจะออกมาคล้ายๆกล่อง Set Top Box ดาวเทียมเลยครับ วัสดุของกล่องมักจะเป็นพลาสติกหรือ อลูมิเนียม และ อุปกรณ์ภายในต่างๆเราจะปรับเปลี่ยนไม่ได้ ส่วนมากก็จะติดตั้ง Windows 8.1 with Bing มาให้

แต่สิ่งที่สำคัญคือ การระบายความร้อน เพราะกล่องมันจิ๋วมาก การระบายความร้อนถ้าจะเปิดตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน 24 ชั่วโมง / 7 วัน อาจไม่เหมาะ อาจจะพังซะก่อนตั้งแต่อาทิตย์แรก เพราะความร้อนน่าจะสะสมมากๆ ทำให้ผมเลิกคิดถึงเจ้า Mini PC จิ๋วสำเร็จรูปไปเลยทีเดียว

และผมไม่ได้กะเอาจิ๋วขนาดนั้น เพราะเราจะไม่สามารถกำหนด Hardware ของเครื่องคอมได้เลย ผมเลยมองว่าลองหา Hardware ที่จิ๋วที่สุดเท่าที่ผมจะหาได้ในท้องตลาด

แต่ที่แน่ๆ อุปกรณ์ที่ผมมีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มมีอยู่ 2 ชิ้นครับ



1. RAM DDR3 Notebook ขนาด 2GB ยี่ห้อ Hynix BUS 1600 จำนวน 2 แถว หรือก็คือ 4GB ถอดออกมาจาก Notebook (อันนี้ไม่มั่นใจว่า DDR3L หรือ DDR3 แต่ใส่ได้แล้วทำงานด้วยเป็นอัน OK)



2. HDD Notebook ขนาด 500GB. ที่ผมก็ถอดออกมาจาก Notebook เหมือนกันอีกด้วย

ดังนั้น ผมแต่ไปหาอุปกรณ์เพียงแค่ 2 ชิ้นเท่านั้นครับ คือ Mainboard และ Case หรือก็คือ กล่องภายนอกที่เรายัดอุปกรณ์ทั้งหมดเข้าไปข้างใน

ผมจึงเริ่มหาจากในเนตเอาครับว่ามี Case แบบไหนสวยๆบ้าง เอาเล็กๆ บางๆที่ อยากได้แบบ Mac Mini เลยทีเดียว และ Mainboard แบบไหนน้า ที่เราจะยัดเข้าไปใน Case จิ๋วๆได้

Case
Case นั้น ตอนแรกผมฝันหวานว่า เอาแบบอลูมิเนียมเงินๆ บางๆ ดีกว่า ก็หาในเนตไปเจอ


http://www.aliexpress.com/item/Realan-Industrial-Mini-ITX-Case-E-Q5-Custom-Gaming-ITX-Computer-Aluminum-3-5mm/1848739417.html?spm=2114.13010308.0.55.TDk4vk

ชอบมากเลยครับ ราคาจากจีนส่งมาไทยราวๆ 57 USD หรือราวๆ 1900 บาท คิดในใจ ราคารับได้ แต่ต้องรอของซัก 20-30 วัน เอาดีไหมนะ

โดยที่ความพิเศษของ Case ชนิดนี้คือ Power Supply แบบ 2 ส่วน คือ




1. ส่วนภายใน Case เพื่อจ่ายไฟไปหาอุปกรณ์ต่างๆ โดยในชุดจะมีสายไฟ 24 pin สำหรับเลี้ยง Mainboard ,สายไฟ Mainboard แบบ 4 pin ,สายไฟ SATA สำหรับ HDD 1 ช่อง , Molex 1 ช่อง


2.ส่วนภายนอกที่เป็น Adapter โดยจะแปลงไฟฟ้าจาก 220v เป็น 12v5A

แต่เดี๋ยวก่อน อ่านไปอ่านมาใน Aliexpress มันไม่มี Power Supply มาให้นี่หว่า

ค่า Power Supply กับ Adapter รวมๆกันแล้วต้องโดนอีกราวๆ 45 USD ราวๆ 1500 บาท ไปกันใหญ่

รวมๆค่า Case + Power Supply + Adapter โดนไป 3400 บาท แทบปิดโปรเจค แพงเกินรับได้ ส่วนใน Aliexpress Case ที่ขนาดเล็ก และมี Power Supply มาในตัวเลยก็ไม่ค่อยจะสวย คือมันยังไม่โดนใจ เลยเอาไว้คิดทีหลังดีกว่าว่าเอาไงดี

Mainboard
สำหรับ Mainboard ไม่ต้องคิดมากเลยครับ มีไม่กี่รุ่น โดยลักษณะของ Mainboard ชนิดนี้คือ ขนาด Mini ITX มันจะเป็น Mainboard ขนาดจิ๋วหลิวมากครับ กว้าง x ยาว แค่ 17x17 เซนติเมตรเท่านั้นเอง รูปทรงมันจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประหยัดพื้นที่มากๆ ผมก็ดูใน www.advice.co.th ร้าน IT เจ้าประจำ หลังๆซื้อกับพี่แกเพราะส่งฟรีถึงบ้าน แต่ใน Advice คราวนี้กลับมีรุ่นให่เลือกน้อยมาก เอาจริงๆคือ มีรุ่นเดียวเลยดีกว่า

https://online.advice.co.th/product/mainboard/mainboard-cpu/biostar-j1800nh3-cpu-celeron-dual-core-up-to-2-41ghz





ในเว็ป Official ของ Biostar http://www.biostar.com.tw/app/es/mb/introduction.php?S_ID=756

เป็นรุ่นเดียวเลยครับที่ใส่ Ram Notebook ได้ของร้าน Advice กลายเป็นไม่มีตัวเลือก

มานั่งไตร่ตรองดู ไปเดินหาตามห้าง IT ดีกว่า ว่าทุกวันนี้มีขายแบบไหนบ้าง เลยไปเดิน ห้างพาลาเดียม ประตูน้ำ วันอาทิตย์ น่าตกใจมากจนถึงขั้นน่าใจหายครับ พาลาเดียมแทบไม่มีคนเดินเลย ทั้งชั้น 5 และ 6 ที่ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีผมเดินอยู่คนเดียว มองนาฬิกาตัวเอง มันเพิ่ง 4 โมงเย็นเองนะ ทำไมร้านมันปิดกันหลายร้าน เงียบเหงามากๆ น่าตกใจจริงๆ

ในใจผมนึกถึงสมัยก่อนตอนคอมพิวเตอร์ประกอบบูมมากๆ คนเดินกันเต็มพันทิพย์พลาซ่า เพื่อดูราคาอุปกรณ์คอม แล้วซื้อร้านนี้ 2 ชิ้น ร้านนั้น 3 ชิ้นไปประกอบที่บ้าน อารมณ์นั้นมันหายไปหมดแล้วครับ เป็นยุคตกต่ำของคอมพิวเตอร์ประกอบจริงๆ น่ากลัวมากครับ

เดินไปมา ถามถึง Mainboard ขนาดจิ๋ว Mini ITX ที่ผมหา ก็ไม่มีร้านไหนขายกันเลย ดันไปเดินเจอร้านนึงขาย Case ซะงั้น สะดุดตากับขนาดที่เล็กมาก


(เล็ก มากๆๆๆ แบบนี้แหละที่ผมต้องการ)

เลยสอบถามเจ้าของร้านไปว่า พี่ครับ เคสเล็กๆแบบนี้พี่มีกี่รุ่นครับ เจ้าของร้านก็ตอบทันทีว่า มีรุ่นเดียว และมีตัวนี้ตัวเดียวซะงั้น จึงสอบถามราคา ได้ราคามา 1300 บาท ขอต่อหน่อย เหลือ 1200 บาท ( คิดในใจ อย่างน้อย ไม่ชอบหน้าตามัน ก็ยังเอาแผง Power Supply ไปใส่เครื่องที่เราต้องการได้ ) จึงจัดมาทันที 1200 บาท แล้วยังมีการถามเค้าอีกว่า " พี่ครับ ในพาลาเดียม มีร้านไหนเป็นตัวแทน เมนบอร์ด Biostar ไหมครับ ผมกำลังหา Mainboard ที่เป็น Mini ITX อยู่ครับ "

พี่เจ้าของร้านก็ใจดี บอกว่าเดินไปอีกราวๆ 10 ร้านค้า อยู่ฝั่งเดียวกันกับร้านพี่นี่แหละ ลองไปถามดูเค้ามีหลายรุ่นอยู่ ได้ยินว่าหลายรุ่นนี่ ผมดีใจมากครับ เพราะก่อนหน้านี้ผมเดินถามมาราวๆ 30 นาที ยังไม่เจอซักร้าน พอเจอร้านนี้ มีตัวเลือกให้เลือกอีก ดีมากๆ

จากนั้นก็เดินไปจนถึงร้านเป้าหมาย ถามพี่เจ้าของ ก็ได้ความมาว่า มีทั้งหมด 2 รุ่นนะจ้า แต่ถ้าอยากได้รุ่นไหนที่ต้องการระบุมาแล้วกลับมาเอาวันพรุ่งนี้ เดี๋ยวสั่งให้ วันเดียวได้

จากการสอบถาม ผมได้ข้อมูลมา 3 รุ่น โดยที่ มีของในร้านเลยมีอยู่ 2 รุ่น โดยทั้งหมดเป็นของยี่ห้อ Biostar ทั้งหมดครับ



1. รุ่น A68N-5200 รุ่นนี้ CPU เป็นของ AMD โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ CPU และ Graphic Card แรงมากครับ สามารถเอาไปเล่นเกมส์ได้สบายๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมมองข้ามไปในทันทีมี 2 เรื่องครับ 1. คือมันใส่แรมแบบ PC ธรรมดาซึ่งผมไม่มีเหลือครับ ต้องไปซื้อใหม่ 2. มันกินไฟมากเกินไปครับ ผมลองเอาสเปคไปอ่านดูในเนต CPU AMD A6-5200 มันกินไฟราวๆ 25 Watt แล้วครับ ซึ่งสำคัญมาก ผมต้องการแบบกินไฟน้อยๆๆๆๆ ครับ ตัวนี้เลยผ่านไป



2. J1900NH2 เมนบอร์ดตัวนี้ผมชอบมากครับ เพราะ ผมเล็งตัว J1800NH2 ไว้แต่แรก คือ มันเป็น CPU Celeron J1900 ซึ่งมาแทน J1800 ที่ตกรุ่นไปแล้ว การกินไฟได้อยู่ครับ ราวๆ 10 Watt และแรมที่ใช้ก็ใช้แรม โน๊ตบุ๊คที่ผมมีได้ทันที ขนาดของซิงค์ก็ดูใหญ่ดี น่าจะระบายความร้อนได้ดี แต่ "ดันไม่มีของซะงั้น" จบข่าว ทางร้านบอกว่าถ้าเอาตัวนี้จริงๆ ต้องมาเอาของวันพรุ่งนี้ เลยอด



3. N3050NH เมนบอร์ดตัวนี้ทำให้ผมลังเลนานมากครับ เพราะไม่ได้หาข้อมูลไว้ก่อน เลยต้องหาอ่านๆเอาในอินเตอร์เนตที่หน้าร้านคนขาย ได้ความมาว่า เพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน เป็นสถาปัตยกรรมใหม่ ขนาด CPU แบบ 14nm ความเร็ว 1.6 GHz แถมกินไฟน้อยมากๆแค่ 6 Watt ซึ่งผมก็มี Tablet Atom Z3735f ก็คิดว่า มันน่าจะใกล้เคียงกัน เป็นอันตกลง เอากลับมาบ้านเลย สนนราคา 1950 บาท ถูกกว่าที่คิดนิดนึง แถมใช้แรมที่มีได้ด้วย ไม่ต้องเปลืองตังเพิ่ม

http://cpuboss.com/cpus/Intel-Celeron-N3050-vs-Intel-Celeron-J1900

ลิ้งข้างบนเป็นการเปรียบเทียบหมัดต่อหมัด ระหว่าง CPU Celeron N3050 กับ Celeron J1900 ครับ ลองอ่านดูนะครับ

หิ้วกลับมาบ้านมีความสุขมากครับ ไม่ได้ประกอบคอมพิวเตอร์มานาน แถมคราวนี้มาแนวแปลก ไม่เคยประกอบ Mini PC มาก่อน

มาดู Case ที่ผมได้มากันครับ


ด้านหน้า มีปุ่ม Power 1 ปุ่มเอาไว้เปิดปิดเครื่อง ไม่มีปุ่ม Reset นะครับ แถบที่เห็นตรงกลางสีเงินๆ เป็นพลาสติกใสๆ มีไฟ LED สีฟ้า และ แดง อยู่ข้างในเพื่อบอกสถานะของเครื่องครับ โดยไฟสีฟ้า จะแจ้งว่าเครื่องเปิดอยู่ ส่วนไฟสีแดง จะเป็นการทำงานของ HDD หรือ ฮาร์ดดิส ครับ

ด้านข้าง เป็นฝาปิดรูพรุนเพื่อให้ระบายอากาศ ให้อากาศไหลเวียนเข้าไปหาเมนบอร์ดอันน้อยนิดภายในครับ จะเห็นว่ามีฝาเล็กๆที่แกะได้อยู่ทางด้านซ้ายมือของเคส แกะออกมาไม่มีอะไรครับ มันจะมีช่องเจาะเอาไว้ให้เราใส่ Port Serial และ USB เพิ่ม แต่เคสไม่ได้แถมมาครับ ต้องไปเดินหาซื้อเอาเอง
อีกด้านนึงจะเป็นพื้นทึบ มีช่อง USB จำนวน 2 ช่อง และช่องเสียบหูฟัง และ ไมค์โครโฟน อย่างละ 1 ช่อง ตามสไตร์เคสคอมพิวเตอร์ทั่วไป
ด้านหลังของเครื่อง รูปนี้ผมถ่ายมาโฟกัสผิดพลาด แต่ก็พอมองออกนะครับว่าภายในมีแผงวงจรไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟอยู่ โดยมีสายไฟเตรียมไว้ให้แล้วทั้ง 24 Pin , 4 Pin , หัว USB ของเมนบอร์ด , หัว Front Audio , สายไฟ SATA , สายไฟ Molex และ หัวต่อปุ่ม Power + แสดงสถานะเครื่อง + แสดงสถานะ HDD ทั้งหมดนี้ มีมาอย่างละ 1 ชุดครับ


แผงวงจรนี้คือ ภาคจ่ายไฟเข้าเมนบอร์ด ซึ่งแผงวงจรเล็กมากๆครับ อ่านจากที่พิมพ์ไว้บนบอร์ด รหัสรุ่นน่าจะเป็น LR1204 ซึ่งจ่ายไฟได้ 120 Watt รับไฟ 12 Volt แบบ DC ครับ

เมนบอร์ด Biostar N3050NH

สเปคคร่าวๆ http://www.biostar.com.tw/app/en/mb/introduction.php?S_ID=810

ไปเยี่ยมชมลิ้งของเว็ปไซต์ Biostar ได้ครับ

ขนาดของเมนบอร์ด 17 x 17 ซม. เล็กมากๆ เสียบไฟเข้าแค่ 24 Pin ไม่ต้องเสียบไฟ 4 Pin เพิ่ม สะดวกมากๆ ใส่แรมได้ 2 แถว โดยรับแรมได้สูงสุด 8 GB ซึ่งผมมี 4 GB แบบ 2 GB 2 แถว สบายๆ มี USB 3.0 จำนวน 2 Port ต่อภาพออกจอได้ทาง VGA และ ทาง HDMI ระบบทั้งหมดจะเป็น Fan Less คือไม่มีเสียงพัดลมมากวนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเล่นใช้ซิงค์อย่างเดียว ไม่มีพัดลมระบายอากาศอะไรเลย


อุปกรณ์ที่ผมมีตามนี้เลยครับ ที่จะยัดใส่เข้าไปในเคสเล็กๆแต่ผมไม่ได้ถ่ายภาพระหว่างการประกอบไว้ครับ มีแต่ภาพแบบประกอบเสร็จเลย


หลังประกอบเสร็จ พื้นที่จัดเต็มมากๆ ขนาดเมนบอร์ดยัดเข้าไปพอดีกับพื้นที่ของเคสที่เหลืออยู่เปะๆ หมดพื้นที่ทันที HDD มันจะเป็นเหล็กยึดน๊อตลอยขึ้นมาเพื่อวาง HDD ลงไป แต่พื้นที่วางดันมาเหนือภาคจ่ายไฟ ซึ่งมีความร้อนสะสมแน่นอน แต่ใต้ HDD มีช่องให้ใส่พัดลมได้ ขนาด 40 มม. จำนวน 1 ตัว ซึ่งเมนบอร์ดก็มีช่อง 3 Pin รอตรงตำแหน่งนี้พอดี ซึ่งเรื่องความร้อนผมจะกล่าวในช่วงต่อไปครับ

หลังจากประกอบเสร็จ ผมก็ลง Windows 7 Pro แบบ ไลเซนที่ผมซื้อ Code มาจาก อินเตอร์เน็ต (ไปลองหาเอานะครับ เดี๋ยวนี้มีหลายคนมากๆที่เอาแบบ Code มาขาย เข้าใจว่ามันอาจไม่ถูกลิขสิทธิ์ 100% แต่ก็สนับสนุนของแท้นะครับ Windows หลักๆผมกลัวว่ามันจะรวนครับ หลังๆตั้งแต่มี Windows 8.1 ผมก็ใช้แท้แบบซื้อ Code จากเนตเอาตลอดครับ) แล้ว Upgrade เป็น Windows 10 Pro ทันที

ระหว่างการติดตั้ง Windows 7 ก็เกิดปัญหาครับ ผมใช้วิธีการติดตั้งผ่าน USB ซึ่งหลังๆผมก็ทำแบบนี้ตลอด เพราะมันเร็วดี ใช้เวลาราวๆ 10-15 นาทีก็ลง Windows เสร็จแล้ว แต่ดันขึ้น Error ของ Driver USB ซะงั้น ประมาณว่า Installation ของ Windows 7 มันมองไม่เห็น USB ผมเลยต้องเอา Drive DVD External มาเสียบ แล้ว Write แผ่น Windows 7 มาติดตั้ง ก็ยังมองไม่เห็น USB อีก กลายเป็นว่าผมต้องไปขุดเอา DVD Drive แบบ Internal มาเสียบสาย SATA เพื่อลง Windows 7 จากแผ่น DVD ยุ่งยากมาก

เท่าที่ลองวิเคราะห์น่าจะมาจาก เมนบอร์ดมันใหม่มากจนไม่ Support Windows 7 แล้วครับ เพราะผมลองเอา USB ตัว Install Windows 8.1 ที่ผมมีอีกอันมาลองลงดูดันลงได้ แต่ผมดันซื้อไลเซนของ Windows 7 มาแล้วครับ เลยต้องหาทางลงเอา

พอ Boot เข้า Windows 7 ก็ลองลง Driver อุปกรณ์ต่างๆที่โหลดมาจาก Official Biostar ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เลยลอง Download โปรแกรม HW Monitor มาลองเปิดดูการทำงานของ CPU ความร้อนสะสมต่างๆ ระหว่างรอการติดตั้ง Windows 10 (ที่ต้องรอเพราะ Upgrade เป็น Windows 10 มันต้อง Download File ติดตั้งใหม่ทั้งหมดซึ่งรอนานพอสมควร) ลองเปิด Chrome เล่นๆดู ซัก 2-3 tab

CPU โหลด 100% ตลอดเวลา คือทำงานเต็ม MAX ซึ่ง CPU ตัวนี้สัญญาณนาฬิกาอยู่ 1.6 GHz แต่มันสามารถ Boot ตัวเองไปได้ถึง 2.1 GHz ซึ่งมันทำงาน 2.1 GHz ตลอดเลยครับ ในใจก็คิดว่า สงสัยมันทำงานอะไรบ้างนะ ลองเปิด Task Manager มันแบ่งไปทำงานด้านการ Download Windows 10 นิดหน่อย แบ่งไปทำงาน Chrome นิดหน่อย เท่ากับทำงาน 2-3 อย่าง CPU จะทำงาน MAX Speed เลยครับ

ความร้อนสะสมมากๆๆๆๆ เปิดดู HW Monitor CPU ร้อนไป 71 องศา แบบค้างที่ 71 องศาตลอดเลยรุนแรงมากครับ ผมคิดว่าสงสัย Windows 7 มันจัดการทรัพยากรได้ไม่ดี เดี๋ยว Upgrade เป็น Windows 10 น่าจะดีขึ้น

หลังจาก Upgrade เป็น Windows 10 แบบ Clean Install คือล้างข้อมูลทั้งหมด เป็น Windows 10 Pro แบบเพียวๆเลย ลง Driver สำหรับ Windows 10 เรียบร้อย ก็พบกับ เรื่องเดียวกันเลยครับ ไม่ได้ต่างไปกับ Windows 7 ซักนิด

การทำงานที่ผมลองคือ เปิด Chrome เล่น Youtube ดูไฟล์ VDO แบบ 1080p กระตุกครับ คือ มันไม่ Smoot เท่าที่ควร ดังนั้นกะจะประกอบคอมด้วยชุดนี้ไปดูหนัง 1080p ไม่รอดนะครับ ต้องซื่้อรุ่นที่ CPU แรงกว่านี้ครับ

Load ของ CPU เกือบ 100% เช่นเดิม มันจะวิ่งไปมา ระหว่าง การทำงาน 70% - 100% อยู่ตลอด ทำให้ความร้อนสะสมที่ CPU มากๆครับ 71 องศาอีกแล้ว ดูทรงแล้วไม่น่ารอดเลยครับ

แรม 4 GB จะถูกกินไปราวๆ 50 % 2-2.5 GB ซึ่ง พอเพียงครับ



กินไฟโดยวัดจาก TP-Link HS110 (อุปกรณ์ชิ้นนี้ผมจะมาเขียนบทความอีกที ดองไว้นานแล้วฮ่าๆ) ได้ 10-16 Watt. ประหยัดไฟมากๆ เท่าที่ผมลองใช้สูตรการคิดค่าไฟ จะตกเดือนละไม่เกิน 30 บาท ซึ่งรับได้ครับ

เท่ากับปัญหาทั้งหมดคือเรื่องความร้อนสะสม ทำให้ผมต้องหาพัดลมมาติดดีกว่า ไม่งั้น CPU ได้ไปก่อนเวลาอันสมควรแน่นอน ซึ่งเมนบอร์ด Biostar N3050NH ก็มีช่อง 3 Pin สำหรับติดพัดลม รออยู่แล้ว 2 ชุด คาดว่าทาง Biostar ก็รู้แหละ แต่ยังไม่ใส่มาให้ แต่ก็อาจเป็นเพราะผมดันเอามายักในเคสที่เล็กมากๆ ใส่ของลงไปก็แน่นมากๆ เลยระบายความร้อนได้ไม่ดีพอ

ผมเลยไปเดินบ้านหม้อ สอยพัดลม แบบ 3 Pin ขนาด 40 มม. มา 2 ตัว ราคาตัวละ 45 บาท กลับมาบ้านรีบประกอบยัดใส่เข้าไปในเคสอันเล็กๆทันที หลังจากใส่พัดลมได้ผลดีมากครับ


ภาพจาก Task Manager เห็นได้เลยครับ CPU จะวิ่งขึ้นลง ตั้งแต่ 60% ขึ้นไป จน 100% เกือบตลอด ซึ่งผมเปิดระบบมาราวๆ เกือบ 3 ชั่วโมง โปรแกรมที่ผมให้ทำงานค้างไว้คือ โปรแกรม Download , HW Monitor และ TeamViewer


ความร้อนหลังติดพัดลมบนซิงค์ CPU ลดลงมา 10 องศา เหลือ ความร้อนสูงสุดที่ 61 องศา ซึ่งน่าจะพอที่จะใช้งานแล้วครับ ถ้าผมปิด HW Monitor กับ TeamViewer น่าจะลดการทำงานของ CPU ได้อีกนิดหน่อยครับ

สรุป
ตอนนี้พอใจมากครับ กับคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว แม้จะไม่จิ๋วที่สุด แต่ก็จิ๋วที่สุดเท่าที่ผมจะหา Hardware มาประกอบได้แล้วหละครับ

การทำงานของมันก็ดังที่ผมหวังไว้ทุกประการ กินไฟน้อย ราวๆ 10-16 Watt (อันนี้คือทั้งคอมพิวเตอร์แล้ว) ทำงานด้านการ Download อย่างเดียว เสียอย่างเดียว ความร้อนสะสมยังมีอยู่ เดี๋ยวหาทางลดอุณหภูมิอีกนิด

สำหรับคอมพิเตอร์ชุดนี้ทำอะไรได้บ้าง

Mainboard + CPU Celeron N3050NH 1.6GHz ทำงานแบบพื้นฐานเลยครับ เล่นเนต (ใช้ Chrome เปิดทำงานซัก 5-6 Tab ก็เริ่มอืดๆแล้ว) งาน Office ก็ทำงานได้ หรือลงพวกโปรแกรมบัญชีผมว่าก็ไม่ขี้เหร่นะครับ เมื่อ CPU มัน Load 100% จะทำงานช้าหน่อยครับ แต่ก็ไม่ได้อืดอาดอะไรมากมาย ถือว่าราคาประหยัดและขนาดเล็กมากๆ

ไม่เหมาะเอามาต่อเพื่อดูหนัง HD นะครับ ไม่น่ารอด

ราคาของชุดนี้ถ้าซื้อทุกชื้น
1. Mainboard N3050NH ราคา 1950 บาท
2. Case คอมพิวเตอร์ 1200 บาท
3. แรม 2GB x 2 แถว น่าจะราวๆ 700 บาท
4. Harddisk 500GB 1500 บาท

รวมราคา 5350 บาท ได้คอมพิวเตอร์จิ๋ว 1 เครื่องครับ

หวังว่าจะเป็นแนวทางให้เพื่อนๆที่ผ่านมาอ่านพอเข้าใจ และตัดสินใจในการซื้อได้นะครับ

สิ่งนึงที่ผมคิดเสมอเมื่อประกอบคอมพิวเตอร์คือ เงินอะมีครับ และผมก็รู้ว่างบที่ตั้งไว้ก็เหลือๆ แต่เอาที่เราพอใช้ดีกว่า ซื้อแพงๆไป เร็วไป ไม่ได้ใช้ก็เท่านั้นครับ จัดสเป็คเท่าที่เพียงพอต่อการใช้งาน หรือ ทำงาน ที่คิดไว้ก่อนล่วงหน้าแบบพอดีๆ เอาส่วนต่างที่เหลือไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น